30 มิถุนายน 2567
ธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มีทั้งร้านขนาดเล็ก ขนาดใหญ่เปิดใหม่เป็นจำนวนมาก ด้วยความเชื่อที่ว่า “ขายของกิน ยังไงก็ขายได้” แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่เสมอไป เพราะยิ่งร้านเปิดขึ้นเยอะมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าการแข่งขันในตลาดก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ มาแนะนำ ไปดูกันว่าถ้าอยากทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง?5 เคล็ดลับ ทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ประสบความสำเร็จ1. วาง Concept ร้านให้ชัดเจนธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก มีทั้งร้านที่เป็นกระแส และร้านนอกกระแส ซึ่งแน่นอนว่าร้านที่เป็นกระแสก็จะได้รับความสนใจมากกว่า มีโอกาสในการขายมากกว่า หากสังเกตจะเห็นว่าร้านอาหาร หรือคาเฟ่ ส่วนใหญ่ที่เป็นกระแสในปัจจุบัน มักจะมีจุดเด่นบางอย่างที่แตกต่างไปจากร้านอื่น เช่น การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ เมนูอาหารเฉพาะที่เป็น Signature ของร้าน หรืออะไรก็ตามที่ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ ดังนั้นการจะทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ประสบความสำเร็จ ต้องวาง Concept ร้านให้ชัดเจน สร้างความแตกต่าง สร้างภาพจำให้กับลูกค้า เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นร้านไหน2. สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าไม่ว่าเวลาจะหมุนเปลี่ยนไปสักแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การบอกต่อกันแบบปากต่อปาก เป็นหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ประสบความสำเร็จ ยิ่งในปัจจุบันเป็นยุคของโซเชียล ทำให้การบอกต่อกระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วหลายเท่าตัว แต่การที่จะทำให้เกิดการบอกปากต่อปากได้นั้น ลูกค้าจะต้องเกิดความชื่นชอบ เกิดความประทับใจก่อน ซึ่งความประทับใจของลูกค้านั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของ คุณภาพและรสชาติของอาหาร การให้บริการของพนักงาน และสภาพแวดล้อมของร้านตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านคุณภาพและรสชาติของอาหารอาหารอร่อย รสชาติอาหารคงที่คุณภาพของวัตถุดิบสด สะอาด ตามมาตรฐานให้ปริมาณเยอะ ในราคาย่อมเยาตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านการให้บริการของพนักงานพนักงานให้บริการด้วยความเต็มใจ และรอยยิ้มพนักงานมีความกระตือรือร้น คอยดูแลอยู่ตลอดพนักงานมีความซื่อสัตย์ตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านสภาพแวดล้อมของร้านร้านมีการตกแต่งที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ3. หาทำเลที่ดี ทำเลทองเรื่องทำเลที่ตั้งยังคงเป็นหัวข้อสำคัญในการทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เพราะทำเลที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น ลองมองภาพตามง่ายๆ ร้านอาหารประเภทเดียวกัน ราคาเท่ากัน คุณภาพเท่ากัน ร้านหนึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่คนพลุกพล่านเข้าถึงได้ง่าย กับอีกหนึ่งร้านตั้งอยู่ในตรอกที่เข้าถึงยาก เดินทางลำบาก ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องเลือกร้านที่สะดวก สบายมากกว่าอยู่แล้ว ทำเลร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ที่ดี ควรอยู่ในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ใกล้อาคารบริษัท ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ใกล้เขตชุมชน และถ้าเป็นจุดที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีที่จอดรถด้วยก็จะยิ่งดี แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องดูเรื่องทำเลคือ มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน ต่อให้เลือกทำเลที่คนพลุกพล่าน แต่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมาย ก็เท่ากับว่าเปล่าประโยชน์ เช่น การเปิดร้านชานมไข่มุก ในบริเวณที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ก็จะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร4. สร้างคอนเทนต์โปรโมตร้านในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยโซเชียลมีเดีย การสร้างคอนเทนต์คือการโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จักอย่างเห็นผล ซึ่งการสร้างคอนเทนต์สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเขียนบทความ การใช้รูปภาพ หรือการทำคลิปวิดีโอ ซึ่งในการเลือกทำคอนเทนต์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ดูว่ากลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องอะไร เช่น ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ อาจจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ แคลอรีของอาหารแต่ละชนิด หรือประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิด เป็นต้น ที่สำคัญควรทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอด้วย5. เลือกใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยมาถึงเทคนิคสุดท้ายที่หลายคนมักมองข้าม เมื่อต้องการความสำเร็จในยุคดิจิตอล ก็ต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งในปัจจุบันมีระบบ มีโปรแกรมจำนวนมากให้เลือกใช้ ทั้ง ระบบรับออเดอร์ ระบบสต๊อกสินค้า โดยระบบเหล่านั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการร้านได้เป็นอย่างดี ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีช่วยให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง และแม่นยำช่วยบริหารจัดการทุกอย่างภายในร้านอย่างเป็นระบบช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และเก็บข้อมูลช่วยลดภาระงานของพนักงาน เช่น การนับสต๊อกสินค้าและวัตถุดิบช่วยลดปัญหาการทุจริตของพนักงานต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ถ้าจะมีจุดเด่นแค่อย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน อย่างที่บอกไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่าง รสชาติและคุณภาพ ราคา การสร้างความประทับใจ การโปรโมตผ่านคอนเทนต์ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในร้าน หากสามารถทำได้ครบทุกข้อก็จะทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น
30 มิถุนายน 2567
ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังมาแรงมากๆ มีหลายคนที่สนใจอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร แต่ก็มีความกังวลอะไรหลายๆ อย่าง ไม่รู้จะขายอะไร ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้เราจึงมีไอเดียเกี่ยวกับการเปิดร้านอาหารมาฝาก ไปดูกันว่าถ้าอยากเปิดร้านอาหารในยุคดิจิตอลแบบนี้ ต้องศึกษาเรื่องอะไรบ้าง?ศึกษาเกี่ยวกับภาพรวมของร้านก่อนสิ่งแรกที่ต้องศึกษาเมื่อคิดจะเปิดร้านนั่นก็คือภาพรวมของร้าน ภาพรวมในที่นี้ก็คือ ภาพในอนาคตคร่าวๆ ว่าอยากจะขายอะไร กลุ่มลูกค้าประมาณไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อเป็นแนวทางในขั้นตอนต่อไป สำหรับคนที่มีเป้าหมายในใจชัดเจนอยู่แล้วว่าจะขายอะไร ขั้นตอนตรงนี้อาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน น่าเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจะติดปัญหาที่ว่า “ไม่รู้จะขายอะไรดี” ซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกเลยทีเดียว แนะนำให้เริ่มมองหาจากอะไรที่ใกล้ตัวก่อน เช่น อาหารที่ชอบทาน อาหารที่ทำแล้วอร่อย หรือสูตรอาหารของครอบครัว จากนั้นค่อยมาปรับปรุง เพิ่มเติมให้ถูกใจ ถูกปากกลุ่มลูกค้ามากขึ้นศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าเมื่อได้รู้แล้วว่าจะขายอะไร กลุ่มลูกค้าประมาณไหน เรื่องต่อมาที่ต้องศึกษาก็คือ พฤติกรรม ความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นอย่างไร ในยุคดิจิตอล ยุคที่มีการแข่งขันสูงอย่างนี้ ข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ยิ่งเรามีข้อมูลลูกค้ามาก ข้อมูลเหล่านั้นจะช่วยให้เข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เมื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้า ก็จะสามารถเปิดร้านอาหาร คิดเมนู ปรับเปลี่ยนรสชาติที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ นั่นเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายได้อีกทางหนึ่ง เช่น เปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ก็จะต้องศึกษาว่า ส่วนใหญ่คนที่รักษาสุขภาพมีพฤติกรรมอย่างไร ทานอาหารรสชาติประมาณไหน เทรนรักสุขภาพในปัจจุบันเป็นอย่างไร มีวัตถุดิบเพื่อสุขภาพอะไรบ้างที่กำลังได้รับความนิยมศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการขายขั้นตอนต่อมาก็คือการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการขาย เมื่อรู้แล้วว่าจะขายอะไร พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างไร ก็ต้องมาดูเรื่องของรูปแบบการขายกันต่อ ว่ารูปแบบการขายแบบไหนที่ตอบโจทย์กับร้านมากที่สุดเพราะในปัจจุบันร้านอาหารไม่จำเป็นจะต้องมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียว ยังสามารถเปิดขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งรูปแบบการขายแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เช่น ค่าเช่าที่, ค่า GP แอปพลิเคชัน และการเข้าถึงของลูกค้า เป็นต้น ทั้งนี้การจะเลือกรูปแบบการขายต้องดูจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ข้อดี-ข้อเสียของการขายแต่ละรูปแบบ ความพร้อมของพื้นที่ หรือเงินทุนที่มีอยู่ศึกษาเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งสำหรับคนที่ตัดสินใจว่าจะเปิดร้านอาหารที่มีหน้าร้าน การเลือกทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องศึกษา เพราะทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คือเรื่องจริง คุณสมบัติของทำเลที่ดีในการเปิดร้านอาหารเป็นทำเลที่มีคนสัญจรพลุกพล่าน เป็นแหล่งชุมชน เช่น ใกล้ตึกสำนักงาน ใกล้มหาวิทยาลัย หรือเป็นย่านที่พักอาศัยเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก เดินทางง่ายมีรถประจำทางผ่าน และมีที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นทำเลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนเพียงพอต่อความสำเร็จที่ต้องการ เช่น การเปิดร้านอาหารมุสลิม ก็ควรเลือกทำเลที่อยู่ใกล้ชุมชนของชาวมุสลิม มีชาวมุสลิมอาศัยเป็นจำนวนมากเป็นทำเลที่มีคู่แข่งน้อย การมีคู่แข่งจำนวนมากก็จะทำให้โอกาสในการขายลดน้อยลง ถ้าได้เริ่มต้นเป็นร้านแรกๆ ก็จะมีความได้เปรียบอยู่พอสมควรเป็นทำเลที่มีข้อจำกัดตอบโจทย์ของร้าน เช่น เวลาในการเปิด-ปิดร้าน ระยะเวลาของสัญญาเช่า ราคาค่าเช่า ค่าส่วนกลาง หรือค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้นศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบเมื่อคิดจะเปิดร้านอาหารก็ต้องศึกษาเรื่องของวัตถุดิบ ส่วนผสมที่ต้องใช้ เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้ พยายามเปรียบเทียบซัพพลายเออร์หลายๆ เจ้าเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุด เพราะนั่นคือกำไรที่ร้านจะได้รับ แต่ถ้าราคาถูกแลกกับวัตถุดิบคุณภาพไม่ดี ไม่สด ลูกค้าก็ไม่มีทางกลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน ต้องดูทั้งเรื่องคุณภาพและเรื่องต้นทุนควบคู่กันไป รวมถึงควรมองหาแหล่งวัตถุดิบสำรองเพื่อป้องกันการขาดแคลนวัตถุดิบด้วย ร้านอาหารถ้าขาดวัตถุดิบก็ไปต่อไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีส่วนสุดท้ายที่สำคัญสำหรับการเปิดร้านอาหารในยุคดิจิตอล ก็คือการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยในการจัดการกับระบบภายในร้าน เช่น การใช้โปรแกรม POC ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยจัดการกับหน้าร้านตลอดไปจนถึงหลังร้าน ทั้งการรับออเดอร์ การคิดเงิน รวมไปถึงการจัดการกับสต๊อกสินค้าด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำในการให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ให้เลือกใช้งาน เช่น การเก็บข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการขาย ข้อมูลสินค้า ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และวางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบภายในร้าน ต้องยอมรับว่าการทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ถ้าอยากทำธุรกิจร้านอาหารในยุคดิจิตอล ก็ต้องมองหาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย อย่ามัวเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ควรเสีย ทำทุกอย่างให้เป็นระบบก็จะช่วยให้การจัดการร้านอาหารที่แสนจะยุ่งยากง่ายยิ่งขึ้น
30 มิถุนายน 2567
ในการทำธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ แน่นอนว่าผู้ประกอบการทุกท่านย่อมต้องคาดหวังกำไร คาดหวังให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ด้วยยุคแห่งเทคโนโลยี ยุคที่มีการแข่งขันสูง การที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักของตลาดย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นจะต้องหาเครื่องมือต่างๆ มาเป็นตัวช่วย วันนี้เราจึงจะพาไปดูกันว่าในยุคดิจิตอลอย่างนี้ จะมีเครื่องมืออะไรบ้าง ที่จะช่วยให้ธุรกิจร้านค้า ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักในวงกว้างทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องมีเครื่องมือมาเป็นตัวช่วยธุรกิจในยุคดิจิตอล ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบบเครื่องมือต่างๆ ถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยให้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบ และง่ายยิ่งขึ้น การทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ทันใจ อะไรที่ช้า อะไรที่ยุ่งยากวุ่นวายมีโอกาสไปไม่รอดสูงมาก เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้สูงด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ธุรกิจยุคใหม่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ทำไมต้องมีเครื่องมือมาเป็นตัวช่วยในปัจจุบันเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจร้านค้ามีให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาอะไรมาใช้ก็ได้ เทคโนโลยีก็เหมือนอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วไป ถ้าเลือกไม่ดีไม่เหมาะกับงานก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นต้องเลือกใช้เครื่องมืออย่างถูกต้องจึงจะเห็นผล เพราะถ้าเลือกเครื่องมือแบบผิดๆ ผลลัพธ์ที่ดีก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ดีไม่ดีอาจจะสร้างปัญหาตามมาด้วยซ้ำเครื่องมือสำหรับธุรกิจยุคดิจิตอล- เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลในปัจจุบันข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ทุกส่วน ทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการตลาด การจัดการสต๊อกสินค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ล้วนต้องใช้ข้อมูลทั้งนั้น การเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และต่อยอดมีผลต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก มันจะช่วยให้มองเห็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เห็นฐานลูกค้า เห็นความต้องการของลูกค้า รู้ว่าควรทำการตลาดอย่างไรให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย หากมีข้อมูลอยู่ในมือแต่ไม่มีเครื่องมือที่จะช่วยในการวิเคราะห์ เท่ากับว่าข้อมูลที่มีอยู่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับธุรกิจเลย อย่าปล่อยให้ข้อมูลที่มีกลายเป็นแค่ขยะ สร้างประโยชน์จากข้อมูลในมือให้ได้มากที่สุด เท่านี้ก็เป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้มากขึ้นแล้ว- เครื่องมือจัดการระบบภายในธุรกิจที่มีหน้าร้าน มีการสต๊อกสินค้า สต๊อกวัตถุดิบ เครื่องมือจัดการระบบภายใน ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีที่เลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นระบบ ง่ายต่อการบริหารจัดการ ง่ายต่อการตรวจสอบ ช่วยลดภาระง่ายและลดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียวระบบ ERP เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่อยากแนะนำ สำหรับการจัดการธุรกิจ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจโดยรวมให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ตั้งแต่การบริหารบุคคล การจัดซื้อ การผลิต การขาย รวมไปถึงการสต๊อกสินค้าทำให้การบริหารจัดการในส่วนต่างๆ ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดข้อดีของระบบ ERPรวบรวมการทำงานทุกส่วนเอาไว้ในระบบเดียว เป็นส่วนกลางของฐานข้อมูลช่วยบริหารทรัพยากรที่มีให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดช่วยลดความยุ่งยากในการทำงาน ป้องกันความผิดพลาด และการทำงานซ้ำซ้อนช่วยให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างชัดเจน สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้นช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรให้กับธุรกิจนอกจากนี้ ยังสามารถนำระบบ ERP ไปใช้ประโยชน์กับส่วนงานย่อยได้อีกหลายด้าน เช่น ด้านบัญชีและการเงิน ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ด้านการผลิต และด้านคลังสินค้า เป็นต้น- เครื่องมือสำหรับการสร้างโฆษณาการโฆษณายังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะทำให้กลุ่มลูกค้ารู้จักธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจที่เปิดใหม่ ยังไม่มีฐานลูกค้า ไม่มีการโฆษณา ถึงจะขายได้บ้างแต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นอย่างแน่นอน ในการทำธุรกิจที่การแข่งขันสูง ยิ่งมีคนรู้จักมากเท่าไหร่ โอกาสในการสร้างรายได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเครื่องมือสำหรับการสร้างโฆษณา จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้าม การทำโฆษณาให้ตรงจุดประสงค์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง- เครื่องมือสำหรับสร้างคอนเทนต์การโฆษณาว่าสำคัญแล้ว การสร้างคอนเทนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะทุกวันนี้การสร้างคอนเทนต์ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ใครที่ทำคอนเทนต์ดี คอนเทนต์น่าสนใจ ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ซึ่งคอนเทนต์ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น บทความ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ แต่ก่อนที่จะทำคอนเทนต์ ก็ต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ เช่น ข้อมูลต่างๆ ของกลุ่มลูกค้า เพื่อให้คอนเทนต์ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ถ้าเลือกช่องทางผิด ทำคอนเทนต์ไม่ตรงใจลูกค้า ก็จะเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งการใช้เครื่องมือที่ดีจะช่วยให้การสร้างคอนเทนต์ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียวการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาเป็นตัวช่วย ก็จะทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าระบบต่างๆ อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุน แต่หากมองแล้วว่ามันสามารถช่วยลดความยุ่งยาก ช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้เร็วขึ้น ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก