บทความ ข่าวสาร อัพเดต

จะมีเครื่องมืออะไรบ้างนอกจากกระดาษจดหรือชีท ที่จะมาช่วยจัดการรายรับรายจ่าย ในบทความนี้ ขอเสนอ 6 เหตุผล ที่ควรใช้ โปรแกรมรายรับรายจ่าย ช่วยจัดการเงินการจัดการด้านการเงิน โดยเฉพาะการทำธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ การติดตาม การบันทึกและการจัดระเบียบค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและการวิเคราะห์ธุรกิจของเราได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้ความถูกต้องของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการตกหล่นและช่วยอำนวยความสะดวกในการทำรายรับรายจ่าย จะมีเครื่องมืออะไรบ้างนอกจากกระดาษจดหรือชีทหนึ่งอัน รวมถึงโปรแกรมบัญชีที่จะมาช่วยจัดระเบียบรายรับรายจ่ายให้กับเรา? ในบทความนี้ ขอเสนอ 6 เหตุผล ที่ควรใช้ โปรแกรมรายรับรายจ่าย ที่ช่วยจัดการเงินอย่างมีระบบโปรแกรมรายรับรายจ่าย คืออะไร?โปรแกรมรายรับรายจ่าย คือโปรแกรมหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบันทึกรายรับรายจ่ายทั่วไป ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเจ้าของธุรกิจในการบันทึก ติดตามสถานะ อนุมัติ ไปจนถึงการจ่ายเงินและรับเงินในแต่ละเดือน และที่สำคัญคือเป็นโปรแกรมที่ช่วยรายงานค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทำให้สามารถวิเคราะห์รายรับรายจ่ายของธุรกิจได้อย่างตรงไปตรงมาและมีความโปร่งใสในการรายงานข้อมูลฟังก์ชันการทำงานทั่วไปของโปรแกรมรายรับรายจ่ายบันทึกธุรกรรมรายรับ เช่น รายได้จากการขาย ค่าเช่า หรือเงินเดือน ฯลฯบันทึกธุรกรรมรายจ่าย เช่น บิล ค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือน ฯลฯช่วยจัดทำงบประมาณ กำหนดเป้าหมายทางการเงินและขีดจำกัดสำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละประเภท รวมถึงการตรวจสอบการใช้จ่ายจริงเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเงินที่ตั้งงบประมาณไว้รายงานและวิเคราะห์ข้อมูล เช่น งบกำไรขาดทุน งบดุล รวมถึงการสรุปค่าใช้จ่ายนอกจากนี้ โปรแกรมจัดการรายรับรายจ่ายก็ยังสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมออนไลน์อื่น ๆ เช่น โปรแกรมจัดซื้อ รวมถึงโปรแกรมบัญชีออนไลน์ด้วยเช่นกัน6 เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรมรายรับรายจ่ายการใช้โปรแกรมรายรับรายจ่าย จะช่วยปรับปรุงด้านการจัดการทางการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรมจัดการรายรับรายจ่าย จะมีดังนี้1. ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องมากขึ้นการจดบันทึกด้วยตัวเองหรือการที่ต้องอัปเดตข้อมูลการเงินด้วยตัวเองก็อาจเกิดข้อผิดพลาดทำให้ข้อมูลการเงินคลาดเคลื่อนได้ การใช้โปรแกรมช่วยจัดการรายรับรายจ่ายจะช่วยลดข้อผิดพลาดตรงนี้ และช่วยในการจัดหมวดหมูค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี2. ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ของโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกรายจ่าย อนุมัติการจ่ายเงิน การติดตามสถานะการดำเนินงานต่าง ๆ จะทำให้ประหยัดเวลาอย่างมากในการจัดการภาพรวมของธุรกิจและภาพรวมของการเงิน3. ช่วยควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายโปรแกรมช่วยจัดการรายรับรายจ่าย จะช่วยให้สามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้จากการรายงานเงินออกต่าง ๆ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ถึงกิจกรรมทางการเงินที่ควรลดหรือควรเลิก เช่น ค่าไฟที่แพงเกินไป ค่าเดินทางที่มากเกินไป เป็นต้น4. ช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจธุรกิจสมัยนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) ซึ่งตัวเลขรายรับรายจ่ายนี้จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจและการวางแผนระยะยาวได้เป็นอย่างดี5. สามารถเข้าถึงโปรแกรมได้ง่ายด้วยความที่โปรแกรมนี้มักจะพัฒนาและใช้ผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งเป็นระบบหนึ่งที่มีเพียงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ก็สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถเข้าใช้งานได้หลายคนด้วยเช่นกัน6. เพื่อความโปร่งใสของข้อมูลการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบอย่างเคร่งครัด เพื่อความโปร่งใส่ของข้อมูล โปรแกรมรายรับรายจ่ายจะเข้ามาทำให้ข้อมูลการเงินของเราโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาโปรแกรมรายรับรายจ่ายของ Treesoft มีฟีเจอร์อะไรบ้าง?Treesoft.io พัฒนาโปรแกรมระบบ ERP อย่างโปรแกรมรายรับรายจ่ายมาให้สามารถใช้งานได้ง่าย มีฟีเจอร์การทำงานที่หลากหลาย เหมาะกับธุรกิจ SME สามารถทดลองสมัครใช้งานได้ฟรีฟีเจอร์หลัก ๆ ของโปรแกรมจัดการรายรับรายจ่าย Treesoft.io มีดังนี้บันทึกรายจ่ายทั่วไปอนุมัติการจ่ายเงินติดตามสถานการณ์ดำเนินการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเอกสารต่าง ๆรายงานค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนแจ้งเตือนเมื่อมีการสร้างในรายจ่ายเพื่ออนุมัติ

ระบบที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงการใช้โปรแกรมจัดการองค์กรธุรกิจได้ คือ ระบบคลาวด์ แล้วระบบนี้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ SME?ธุรกิจทุกขนาด จำเป็นต้องมีระบบ ERP หรือระบบจัดการองค์กรธุรกิจ ซึ่งเป็นระบบหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ระบบ ERP แบบเก่าหรือแบบซอฟต์แวร์โปรแกรมติดตั้งลงบนคอมพิวเตอร์ เป็นระบบที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงค่าซ่อมบำรุงและค่าดูแลเซิร์ฟเวอร์อีกต่างหาก ทำให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กอย่างธุรกิจ SME ไม่มีโอกาสเข้าถึงหรือดูแล้วจะไม่คุ้มค่าลงทุน แต่ในปัจจุบัน มีระบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงการใช้โปรแกรมจัดการองค์กรธุรกิจได้ ระบบที่ว่าคือ ระบบคลาวด์ แล้วระบบนี้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้างต่อธุรกิจ SME? ในบทความนี้มีคำตอบระบบคลาวด์ คืออะไร?ระบบคลาวด์ คือ การให้บริการต่าง ๆ ทั้งด้านการบริการ แอพพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ หรือการบริหารจัดการข้อมูลทรัพยากรผ่านการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลและการเข้าถึงได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตรูปแบบของคลาวด์ มีอะไรบ้าง?Public Cloud หรือคลาวด์แบบสาธารณะ ให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตและสามารถแบ่งปันกันได้หลายองค์กรPrivate Cloud หรือคลาวด์แบบส่วนตัว ใช้งานโดยองค์กรเดียว เพื่อให้สามารถควบคุม ปรับแต่ง และเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูล แต่มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง คล้ายกับระบบแบบ On-Premise ที่ต้องติดตั้งลงอุปกรณ์Hybrid Cloud รวมกันระหว่าง Public และ Private Cloud สามารถแชร์ข้อมูลหรือแอปพลิเคชันระหว่างกันได้ประเภทของคลาวด์ มีอะไรบ้าง?ประเภทของระบบคลาวด์ มีด้วยกันหลายประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการ จะมีประเภทต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมให้เลือก ดังนี้Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นบริการคลาวด์โครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กร เช่น การประมวลผล การเก็บข้อมูล ระบบเครือข่ายผ่านการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถกำหนดจำนวนเองได้Platform as a Service (PaaS) เป็นแพลตฟอร์มบริการคลาวด์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาและจัดการแอปพลิเคชันได้ด้วยตัวเองและตามความต้องการโดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานSoftware as a Service (SaaS) เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บนคลาวด์ที่สามารถใช้งานได้ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตโดยมีผู้พัฒนาและผู้ให้บริการดูแลระบบซอฟต์แวร์ ไม่ต้องดูแลระบบด้วยตัวเอง และเป็นระบบสมัครใช้งานผ่านการสมัครสมาชิกประโยชน์ของระบบคลาวด์ต่อธุรกิจ มีอะไรบ้าง?ระบบคลาวด์ มีประโยชน์กับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่ช่วยให้สามารถทำงานและบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือรวดเร็วขึ้น ลดต้นทุนลง ประโยชน์ของคลาวด์ต่อธุรกิจโดยรวม จะมีดังนี้1. ประหยัดต้นทุนเพราะการใช้คลาวด์ ไม่จำเป็นต้องมีการติดตั้งลงเครื่องหรือต้องมีอุปกรณ์ที่รับรอง รวมถึงค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เมื่อเทียบกับการใช้คลาวด์แล้วค่อนข้างแตกต่าง อธิบายง่าย ๆ คือคลาวด์จะไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาและค่าอุปกรณ์ สามารถใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ เช่น โน๊ตบุ้ค โทรศัพท์ แท็บเล็ต ก็สามารถใช้งานได้แล้ว2. สามารถใช้งานที่ไหน เวลาไหนก็ได้มีแค่โทรศัพท์ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านการใช้คลาวด์ได้แล้ว ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลทางด้านธุรกิจหรือองค์กรได้ทุกเมื่อ ทันทุกการอัปเดต3. มีความยืดหยุ่น รองรับการเติบโตของธุรกิจสามารถปรับขนาดทรัพยากรต่าง ๆ ภายในองค์กรของเราได้ทุกเมื่อ สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจและรองรับการเติบโตของธุรกิจ เช่น ระบบคลังสินค้าที่สามารถเพิ่มจำนวนได้ตามต้องการทุกเมื่อนั่นเอง4. สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากระบบคลาวด์ เป็นระบบหนึ่งที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต แทนที่จะต้องเดินเข้าออฟฟิศ เปิดคอมเพื่อเข้าโปรแกรม ทำให้ทีมภายในองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้ตลอดเวลา5. เพื่อความปลอดภัยที่ครอบคลุมการเข้ารหัส การจัดการข้อมูลและการตรวจสอบผู้เข้าใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คลาวด์เป็นระบบหนึ่งที่มีความปลอดภัยครอบคลุม ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลขององค์กรได้6. ป้องกันข้อมูลสูญหายคลาวด์ เป็นระบบหนึ่งที่มีฟังก์ชันในการกู้คืนข้อมูลหรือบางเจ้าอาจใช้ระบบสำรองข้อมูล เพื่อเก็บและรักษาข้อมูลขององค์กรที่สำคัญ ไม่ให้ข้อมูลสำคัญสูญหาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนรอบคอบก็ตามTreesoft.io เป็นผู้ให้บริการโปรแกรม ERP ผ่านระบบคลาวด์หรือ Cloud-Based ที่มีโปรแกรมช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการจัดการองค์กรหรือธุรกิจอย่างครบถ้วนกว่า 10 แอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมขายหน้าร้าน โปรแกรมจัดซื้อ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ โปรแกรมสต๊อกสินค้า ไปจนถึงโปรแกรม HR ที่สามารถสมัครทดลองใช้งานได้ฟรี 14 วัน ใช้งานง่าย เหมาะกับธุรกิจทุกขนาดโดยเฉพาะธุรกิจ SME

ธุรกิจ SME ควรจะมีซอฟต์แวร์อะไรบ้าง? บทความนี้ เราขอพูดถึง 9 โปรแกรม SME ที่เจ้าของผู้ประกอบการ SME ควรมีในปี 2024 พร้อมประโยชน์แต่ละโปรแกรมเจ้าของธุรกิจหลายคนต้องปรับตัวให้ได้ หากใครปรับตัวช้าก็มีโอกาสสูงที่จะเสียโอกาสที่จะเติบโตหรืออาจทำให้ธุรกิจต้องพังลง แล้วอะไรจะมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราสามารถปรับตัวในยุคที่ทุกอย่างถูก Disrupt หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างรวดเร็วและรุนแรงได้บ้าง? ซอฟต์แวร์ทางธุรกิจ ระบบ ERP หรือระบบในการบริหารองค์กรธุรกิจจะเป็นเครื่องมือสำคัญ แล้วธุรกิจ SME ควรจะมีซอฟต์แวร์อะไรบ้าง? บทความนี้ เราขอพูดถึง 9 โปรแกรม SME ที่เจ้าของผู้ประกอบการ SME ควรมีในปี 2024 พร้อมประโยชน์ของแต่ละโปรแกรม9 โปรแกรม SME ที่เจ้าของธุรกิจ SME ต้องใช้ ในปี 20241. โปรแกรมขายหน้าร้าน (Point of Sales)โปรแกรมขายหน้าร้าน หรือโปรแกรม POS เป็นโปรแกรมที่ใช้เพื่อจัดการธุรกรรมการขาย เช่น ธุรกิจขายปลีก ธุรกิจที่มีหน้าร้าน หรือธุรกิจที่มีจุดขายหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อใช้ในการจัดการด้านการขาย รับออเดอร์ลูกค้า รวมถึงการเช็คสต๊อกสินค้า สามารถใช้ร่วมกับ Printer ใบเสร็จ เครื่องสแกนบาร์โค้ด ลิ้นชักเก็บเงิน2. โปรแกรมขาย (Sales Order)โปรแกรมขายหรือโปรแกรม SO (Sales Orders) เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง ติดตามใบเสนอรา อนุมัติใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล รวมถึงใบเสร็จแบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ข้อมูลหรือออกแบบด้วยตัวเอง ทำให้เป็นโปรแกรม SME โปรแกรมหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรมีติดไว้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำกิจการทางการเงินขององค์กร3. โปรแกรมจัดซื้อ (Purchase Order)โปรแกรมจัดซื้อหรือโปรแกรม PO (Purchase Order) คือโปรแกรมช่วยสร้างใบสั่งซื้อ อนุมัติการสั่งซื้อ ยืนยันการชำระเงิน รวมถึงฟังก์ชันในการติดตามการสั่งซื้อ ช่วยปรับปรุงความแม่นยำของข้อมูลการสั่งซื้อ และยังมีประโยชน์ต่อประสิทธิภาพของสต๊อกสินค้า ทำให้สต๊อกสินค้าไม่มีสินค้ามากหรือน้อยเกินไป4. โปรแกรมรายรับรายจ่ายโปรแกรมรายรับ-รายจ่าย เป็นโปรแกรมที่ใช้ช่วยบันทึกรายรับ-รายจ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่งของ ค่าวัตถุดิบ ค่าวัสดุ ทุกการใช้จ่ายของธุรกิจจะอยู่ในโปรแกรมนี้ ซึ่งสามารถติดตามและดูย้อนหลังได้ตลอดเวลา ช่วยในการตัดค่าใช้จ่ายที่เกินตัวหรือไม่จำเป็นออกได้ในอนาคต เป็นโปรแกรม SME หนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ต้องจดในชีทหรือจดกระดาษอีกต่อไป5. โปรแกรมเงินเดือน (Payroll)โปรแกรมเงินเดือน Payroll เป็นโปรแกรมที่จะช่วยคำนวณเงินเดือนของพนักงานแต่ละคนได้แบบละเอียด ทั้งการคำนวณจำนวนเงินเดือน ค่าประกันสังคม โบนัส คอมมิชชั่น ค่าสวัสดิการอื่น ๆ รวมถึงค่าต่าง ๆ เพิ่มเติมที่สามารถนำมาคำนวณได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นโปรแกรมหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลอย่างมาก6. โปรแกรมบัญชีออนไลน์ (Online Accounting)โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เป็นโปรแกรม SME โปรแกรมหนึ่งที่ช่วยบันทึก ช่วยจัดการบัญชีทางธุรกิจ ตรวจสอบธุรกรรมการเงินภายในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยวางแผนการเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ทั้งการตรวจสอบเงินเข้า-ออก การชำระเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล รายรับ-รายจ่าย เป็นต้น7. โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า (Inventory Management)โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า เป็นโปรแกรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการควบคุมสินค้าภายในคลังสินค้าให้สามารถเช็คผ่านระบบคลาวด์ของโปรแกรมได้ สามารถทำใบนำเข้าสินค้าและใบนำสินค้าออกได้ ครบครันเรื่องการจัดระเบียบ ติดตามสินค้าคงคลัง สะดวกมากเมื่อเทียบกับวิธีเก่า ๆ อย่างการจดในกระดาษ8. โปรแกรม HRโปรแกรม HR หรือระบบ HRM ระบบการจัดการทรัพยากรบุคคล เป็นโปรแกรมที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจัดการทรัพยากรบุคคล ตั้งแต่ระบบข้อมูลผู้สมัคร ระบบการจ้างงาน ระบบแจ้งวันลา ระบบแสดงเวลาเข้า-ออก ชั่วโมงการทำงาน และเป็นโปรแกรมที่ช่วยจัดเก็บข้อมูลของพนักงาน ช่วยทุ่นแรง HR เป็นอย่างมาก9. โปรแกรมจัดการสินค้าหรือบริการ (Product/Service Management)โปรแกรมจัดการสินค้าหรือบริการ เป็นโปรแกรมที่จะเข้ามาช่วยให้การจัดการสินค้ามีความเรียบง่ายมากขึ้น ใช้ในการเพิ่มสินค้าใหม่ ประเภทของสินค้า ส่วนลด ส่วนเสริม และการคำนวณภาษีของสินค้า ใช้ได้กับทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงธุรกิจด้านการบริการ สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมขายหน้าร้านได้โปรแกรม SME ที่ได้อธิบายไปข้างต้น เป็นโปรแกรมในระบบ ERP หรือระบบจัดการธุรกิจที่มีความครอบคลุม ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน มีความเป็นมืออาชีพ และช่วยทุ่นแรง ลดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างดีTreesoft.io พัฒนาโปรแกรมระบบ ERP แบบ Cloud-Based ที่สามารถเข้าถึงโปรแกรมทุกโปรแกรมที่ได้อธิบายได้ข้างต้น เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่สามารถเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวหรือสั่งการได้ง่าย ๆ ทุกที่ ทุกเวลา

ธุรกิจ SME หากมัวเสียเวลาอยู่กับการทำบัญชี ก็อาจเสียโอกาสที่จะใช้เวลาไปกับการพัฒนาธุรกิจ ทำให้ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ มีความสำคัญและมีประโยชน์ขึ้นมาการจัดการบัญชีในองค์กรธุรกิจอาจเป็นเรื่องที่ชวนให้เจ้าของธุรกิจต้องนั่งปวดหัว ทำให้นักธุรกิจหลายคนเสียเวลาไปกับการจัดการบัญชีมากเกินความจำเป็น  ในยุคที่การแข่งขันสูงมาก บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด นักธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME หากมัวเสียเวลาอยู่กับการทำบัญชี ก็อาจเสียโอกาสที่จะใช้เวลาไปกับการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต กลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ มีความสำคัญและมีประโยชน์ขึ้นมา เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรมบัญชี คืออะไร ทำไมธุรกิจ SME ยุคใหม่ถึงต้องใช้ บทความนี้มีคำตอบโปรแกรมบัญชีออนไลน์ คืออะไร?โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยบันทึก จัดหมวดหมู่ จัดการ และการเข้าถึงการไหลเวียนเงินขององค์กรธุรกิจ ธุรกรรมทางการเงินในแพลตฟอร์มเดียว โดยสามารถเข้าถึงโปรแกรมบัญชีได้จากระบบออนไลน์โดยมีเพียงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ มีฟังก์ชันอะไรบ้าง?ฟังก์ชันการทำงานของโปรแกรมบัญชีออนไลน์ จะครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการทำบัญชีธุรกิจ ซึ่งจะมีฟังก์ชันในการทำงาน ดังนี้การทำบัญชีบันทึกธุรกิจกรรมทางการเงินแบบออนไลน์บนระบบ Cloud-Based ทางการเงินรายวัน เช่น การขาย การซื้อ ใบเสร็จรับเงินและการชำระเงินการออกใบแจ้งหนี้สร้างใบแจ้งหนี้แบบมืออาชีพ รวมถึงสามารถติดตามสถานีของใบแจ้งหนี้ทั้งการส่ง ดู และการชำระเงิน เพื่อความสะดวกของการแจ้งหนี้การออกใบวางบิลโปรแกรมบัญชีออนไลน์ จะมีฟังก์ชันในการออกใบวางบิล ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างมากต่อระบบบัญชี ซึ่งโปรแกรมบัญชีจะออกแบบใบวางบิลให้ดูมีความเป็นมืออาชีพ มีความน่าเชื่อถือ ป้องกันข้อมูลตกหล่นรายงานการเงินแสดงภาพรวมของการเงินธุรกิจ รายงานรายรับ-รายจ่าย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ช่วยวางแผนทางการเงินได้อย่างเป็นระบบ จำเป็นต่อการพัฒนาธุรกิจในระยะยาวอำนวยความสะดวกด้านการจัดทำงบประมาณโปรแกรมบัญชี จะช่วยให้เราสามารถสร้างงบประมาณสำหรับการทำงาน ทำแคมเปญ โครงการต่าง ๆ หรืองบการเงินที่จำเป็นต่อธุรกิจของเราได้สะดวกมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น7 เหตุผล ที่ธุรกิจ SME ต้องใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การเข้าถึงบัญชีและความไหลลื่นในการทำบัญชีถือเป็นสิ่งสำคัญ และนี่คือเหตุผลที่ธุรกิจ SME ต้องใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์1. คุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายโปรแกรมบัญชีออนไลน์ จะมีต้นทุนการใช้งานไม่แพงเมื่อเทียบกับซอฟต์แวร์แบบติดตั้งลงเครื่อง รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานไอทีเพื่อปรับปรุงแก้ไขระบบ2. เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลาเพราะระบบบัญชีออนไลน์ เป็นระบบแบบ Cloud-Based สามารถเข้าถึงข้อมูลและความเคลื่อนไหวของบัญชีได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงมีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ก็เพียงพอ และระบบบัญชีออนไลน์นี้จะอัปเดตข้อมูลแบบ Real-Time สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น3. เพื่อความแม่นยำของข้อมูลการคีย์ข้อมูลบัญชีด้วยตัวเองในชีท อาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ จุดประสงค์หนึ่งของการใช้โปรแกรมบัญชีคือการลดข้อผิดพลาดตรงนี้ ทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เพราะความแม่นยำของข้อมูลทางบัญชี สำคัญอย่างมากต่อการทำธุรกิจ4. ความปลอดภัยของข้อมูลบัญชีหากว่าจู่ ๆ ข้อมูลหรือไฟล์ชีทหาย คงชวนปวดหัวไปตาม ๆ กัน กว่าจะกู้ไฟล์ กว่าจะได้ข้อมูลกลับมาก็เสียเวลาไปนาน โปรแกรมบัญชีออนไลน์จะมีการสำรองข้อมูลบนคลาวน์เป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงข้อมูลสูญหาย ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักได้5. ทราบข้อมูลทางบัญชีได้ดีขึ้นโปรแกรมระบบบัญชีออนไลน์ นำเสนอตัวเลขทางบัญชีได้ทุกหมวดหมู่ เช่น การชำระเงินต่าง ๆ รายรับ-รายจ่าย ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล เป็นต้น นอกจากความสะดวกแล้ว ก็ส่งผลดีต่อการวิเคราะห์ธุรกิจของเราเองด้วย6. ไร้กระดาษ เป็นโปรแกรมรักษ์โลกนักธุรกิจทราบกันดีว่าการดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ทางด้านการบัญชีมักจะใช้กระดาษกันอย่างสิ้นเปลือง การใช้โปรแกรมบัญชีระบบออนไลน์จะช่วยลดการใช้กระดาษได้ ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม7. เชื่อมต่อกับระบบ ERP อื่น ๆ ได้เพราะบัญชีขององค์กร จะมีส่วนต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบสั่งซื้อ รวมถึงบันทึกรายจ่ายต่าง ๆ ซึ่งโปรแกรมบัญชีที่ดีจะสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมการขาย โปรแกรมจัดซื้อ รวมถึงโปรแกรมรายรับรายจ่ายได้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ของ Treesoft.io มีจุดเด่นอะไรบ้าง?โปรแกรมบัญชีออนไลน์ของ Treesoft.io เป็นโปรแกรมในระบบ ERP ที่อยู่บนระบบ Cloud-Based ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวก เข้าได้ทุกที่ ทุกเวลาซึ่งจุดเด่นของโปรแกรมบัญชีของ Treesoft.io จะมีดังนี้สร้างใบชำระเงิน ใบสำคัญจ่ายได้อย่างมืออาชีพสร้างใบแจ้งหนี้ ใบวางบิลส่งเอกสารใบแจ้งหนี้แบบออนไลน์คู่ค้าสามารถอนุมัติได้ผ่านเว็บไซต์สามารถจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเอกสารทางบัญชีต่าง ๆ ได้สามารถส่งอีเมลให้ลูกค้าได้โดยตรง

ข้อมูลการสั่งซื้อ ใบสั่งซื้อ รวมถึงข้อมูลยืนยันการชำระเงิน ซึ่งโปรแกรมที่จะเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้ คือ โปรแกรมจัดซื้อ PO (Purchase Order) แล้วโปรแกรมนี้คืออะไรการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ หรือธุรกิจระดับ SME จำเป็นที่จะต้องมีระบบ ERP เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้น้อยลง รวมถึงความถูกต้องของข้อมูลการเงิน โดยเฉพาะข้อมูลการสั่งซื้อ ใบสั่งซื้อ รวมถึงข้อมูลยืนยันการชำระเงิน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์อย่างมากต่อประสิทธิภาพของคลังสินค้าและความโปร่งใสของการทำธุรกิจ ซึ่งโปรแกรมที่จะเข้ามาช่วยตรงนี้ คือ โปรแกรมจัดซื้อ PO (Purchase Order) แล้วโปรแกรมนี้คืออะไร มีฟีเจอร์อะไรที่สำคัญ แล้วมีประโยชน์ต่อธุรกิจโดยรวมอย่างไร?โปรแกรมจัดซื้อ PO (Purchase Order) คืออะไร?โปรแกรมจัดซื้อ โปรแกรม PO (Purchase Order) เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการสร้าง ติดตาม และการจัดการใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา และการยืนยันชำระเงิน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กระบวนการจัดซื้อ เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพให้กับระบบการสั่งซื้อโปรแกรมจัดซื้อ มีฟังก์ชันการทำงานอะไรบ้าง?สร้างใบสั่งซื้ออัตโนมัติ ช่วยลดการป้อนข้อมูลด้วยตัวเองอนุมัติการสั่งซื้อ ก่อนที่จะออกใบสั่งซื้อให้กับคู่ค้าการจัดการซัพพลายเออร์ ข้อมูลติดต่อ เงื่อนไขสัญญา ประวัติการปฏิบัติงาน และข้อกำหนดต่าง ๆติดตามงบประมาณ ตรวจสอบการใช้จ่ายเทียบกับงบประมาณติดตามสถานะใบสั่งซื้อ ตั้งแต่การสร้างใบสั่งซื้อไปจนถึงการจัดส่งเชื่อมต่อร่วมกับโปรแกรมอื่น โปรแกรมจัดซื้อจะทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่น เช่น โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า โปรแกรมบัญชีการเงินจัดการเอกสาร เก็บเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อ เช่น สัญญาการค้า ภาษี ใบเสร็จรับเงินโปรแกรมจัดซื้อ มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจและคลังสินค้า?โปรแกรมจัดซื้อ จะช่วยให้ระบบการจัดซื้อมีความสะดวกรวดเร็ว ข้อมูลถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งประโยชน์ของโปรแกรม PO ที่มีต่อธุรกิจและคลังสินค้า จะมีดังนี้1. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับคลังสินค้าโปรแกรม PO จะช่วยรักษาระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม เมื่อระดับสต๊อกสินค้าลดลงต่ำกว่าจุดที่ควรจะเป็น ระบบโปรแกรมการจัดซื้อจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสต๊อกสินค้าจะถูกเติมทันเวลา เพื่อลดโอกาสสินค้าคงคลังหมด ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำธุรกิจได้2. เพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดลงโปรแกรมจัดซื้อ สามารถลดความเสี่ยงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ได้ เพราะลดความจำเป็นในการคีย์ข้อมูลใบสั่งซื้อด้วยตัวเองลง ใส่ข้อมูลเพียงไม่กี่อย่างก็สามารถสร้างใบสั่งซื้อได้ รวมถึงป้องกันความผิดพลาดเกี่ยวกับข้อมูลตัวเลขสินค้าในสต๊อกสินค้าด้วย3. ระบบจัดซื้อมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระบบจัดซื้อที่ดีต้องมีความคล่องตัวสูง ซึ่งโปรแกรม PO จะมีส่วนช่วยในการสร้าง ดำเนินการ อนุมัติใบสั่งซื้อ และการติดตามการสั่งซื้อได้สะดวกมากกว่าการทำใบสั่งซื้อด้วยตัวเองที่ต้องใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน สามารถเติมสต๊อกสินค้าได้ทันเวลา ลดเวลาการทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพระบบจัดซื้อโดยรวมได้เป็นอย่างดี4. ประหยัดต้นทุน ช่วยควบคุมงบประมาณการจัดการต้นทุน การติดตามงบประมาณ เป็นส่วนสำคัญในการทำให้องค์กรหรือธุรกิจของเรามีประสิทธิภาพ ซึ่งโปรแกรมจัดซื้อ เป็นโปรแกรมหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเรื่องการประหยัดต้นทุนและช่วยควบคุมงบประมาณ ทั้งการติดตามการสั่งซื้อ ช่วยลดสินค้าคงคลังส่วนเกิน นำไปสู่การประหยัดต้นทุนในการจัดเก็บสินค้าในโกดัง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการจัดซื้อ5. การจัดการซัพพลายเออร์ที่ดีขึ้นเจ้าของธุรกิจหลายคนรู้ดีว่าการจัดการซัพพลายเออร์หลาย ๆ เจ้าพร้อม ๆ กันเป็นเรื่องที่ลำบากและใช้เวลานาน ทำให้โปรแกรม PO มีประโยชน์อย่างมากในการดูแลจัดการซัพพลายเออร์ ช่วยทั้งเรื่องของการสื่อสาร ความรวดเร็วของการอัปเดตคำสั่งซื้อ การติดตามสถานการณ์จัดซื้อ รวมถึงการอนุมัติคำสั่งซื้อก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ซัพพลายเออร์แต่ละเจ้าได้ด้วย เพื่อมองหาซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลให้การหมุนเวียนสินค้าคงคลังดีขึ้น ลดต้นทุนได้ด้วยเช่นกัน6. ลดงานธุรการลงการจัดการใบสั่งซื้อและสต๊อกสินค้าด้วยตัวเอง ต้องดูเอกสารมากมาย ทำให้เสียเวลาและมีโอกาสผิดพลาดสูงเมื่อเทียบกับการใช้โปรแกรมระบบจัดซื้อที่ช่วยลดภาระด้านธุรการ เอกสาร ช่วยให้เจ้าของธุรกิจหรือพนักงานไปโฟกัสกับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ขององค์กรที่มีความจำเป็นมากกว่าได้โปรแกรมจัดซื้อของ Treesoft.io มีฟีเจอร์อะไรบ้างที่โดดเด่นโปรแกรม PO ของ Treesoft.io เป็นโปรแกรมหนึ่งของระบบ ERP ที่เราได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อความคล่องตัวในการบริหารธุรกิจแบบครบถ้วนด้วยระบบ Cloud-Based ที่สามารถเข้าสู่ระบบจากที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์จุดเด่นโปรแกรม PO ของ Treesoft.io จะมีดังนี้สร้างใบสั่งซื้อ อนุมัติการซื้อได้ในโปรแกรมติดตามสถานการณ์ดำเนินการแบบ Real-Timeสามารถส่งเอกสารสั่งซื้อออนไลน์ได้คู่ค้าสามารถอนุมัติได้บนเว็บไซต์สามารถส่งอีเมลไปยังคู่ค้า แนบไฟล์เป็น PDF ได้สามารถเชื่อมต่อ Printer ถ่ายเอกสารใบสั่งซื้อได้สรุป โปรแกรมจัดซื้อ เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทำให้ระบบการจัดซื้อมีความสะดวกมากขึ้น ลดความผิดพลาดของข้อมูล และทำให้ระบบสต๊อกสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดภาระต่าง ๆ ที่ทำให้เสียเวลา ให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว

ธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน มีทั้งร้านขนาดเล็ก ขนาดใหญ่เปิดใหม่เป็นจำนวนมาก ด้วยความเชื่อที่ว่า “ขายของกิน ยังไงก็ขายได้” แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่เสมอไป เพราะยิ่งร้านเปิดขึ้นเยอะมากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าการแข่งขันในตลาดก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ มาแนะนำ ไปดูกันว่าถ้าอยากทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่  ให้ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง?5 เคล็ดลับ ทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ประสบความสำเร็จ1. วาง Concept ร้านให้ชัดเจนธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก มีทั้งร้านที่เป็นกระแส และร้านนอกกระแส ซึ่งแน่นอนว่าร้านที่เป็นกระแสก็จะได้รับความสนใจมากกว่า มีโอกาสในการขายมากกว่า หากสังเกตจะเห็นว่าร้านอาหาร หรือคาเฟ่  ส่วนใหญ่ที่เป็นกระแสในปัจจุบัน มักจะมีจุดเด่นบางอย่างที่แตกต่างไปจากร้านอื่น เช่น การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์ เมนูอาหารเฉพาะที่เป็น Signature ของร้าน หรืออะไรก็ตามที่ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ ดังนั้นการจะทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ให้ประสบความสำเร็จ ต้องวาง Concept ร้านให้ชัดเจน สร้างความแตกต่าง สร้างภาพจำให้กับลูกค้า เห็นแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นร้านไหน2. สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าไม่ว่าเวลาจะหมุนเปลี่ยนไปสักแค่ไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การบอกต่อกันแบบปากต่อปาก เป็นหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ประสบความสำเร็จ ยิ่งในปัจจุบันเป็นยุคของโซเชียล ทำให้การบอกต่อกระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วหลายเท่าตัว แต่การที่จะทำให้เกิดการบอกปากต่อปากได้นั้น ลูกค้าจะต้องเกิดความชื่นชอบ เกิดความประทับใจก่อน ซึ่งความประทับใจของลูกค้านั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยหลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของ คุณภาพและรสชาติของอาหาร การให้บริการของพนักงาน และสภาพแวดล้อมของร้านตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านคุณภาพและรสชาติของอาหารอาหารอร่อย รสชาติอาหารคงที่คุณภาพของวัตถุดิบสด สะอาด ตามมาตรฐานให้ปริมาณเยอะ ในราคาย่อมเยาตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านการให้บริการของพนักงานพนักงานให้บริการด้วยความเต็มใจ และรอยยิ้มพนักงานมีความกระตือรือร้น คอยดูแลอยู่ตลอดพนักงานมีความซื่อสัตย์ตัวอย่างจุดเด่นที่ทำให้เกิดการบอกต่อ : ด้านสภาพแวดล้อมของร้านร้านมีการตกแต่งที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ3. หาทำเลที่ดี ทำเลทองเรื่องทำเลที่ตั้งยังคงเป็นหัวข้อสำคัญในการทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่  เพราะทำเลที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น ลองมองภาพตามง่ายๆ ร้านอาหารประเภทเดียวกัน ราคาเท่ากัน คุณภาพเท่ากัน ร้านหนึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่คนพลุกพล่านเข้าถึงได้ง่าย กับอีกหนึ่งร้านตั้งอยู่ในตรอกที่เข้าถึงยาก เดินทางลำบาก ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องเลือกร้านที่สะดวก สบายมากกว่าอยู่แล้ว ทำเลร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ที่ดี ควรอยู่ในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ใกล้อาคารบริษัท ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ใกล้เขตชุมชน และถ้าเป็นจุดที่สามารถเดินทางได้สะดวก มีที่จอดรถด้วยก็จะยิ่งดี แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องดูเรื่องทำเลคือ มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน ต่อให้เลือกทำเลที่คนพลุกพล่าน แต่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมาย ก็เท่ากับว่าเปล่าประโยชน์ เช่น การเปิดร้านชานมไข่มุก ในบริเวณที่มีผู้สูงอายุจำนวนมาก ก็จะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร4. สร้างคอนเทนต์โปรโมตร้านในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยโซเชียลมีเดีย การสร้างคอนเทนต์คือการโปรโมตร้านให้เป็นที่รู้จักอย่างเห็นผล ซึ่งการสร้างคอนเทนต์สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเขียนบทความ การใช้รูปภาพ หรือการทำคลิปวิดีโอ ซึ่งในการเลือกทำคอนเทนต์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ดูว่ากลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องอะไร เช่น ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ อาจจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ แคลอรีของอาหารแต่ละชนิด หรือประโยชน์ของอาหารแต่ละชนิด เป็นต้น ที่สำคัญควรทำคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอด้วย5. เลือกใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยมาถึงเทคนิคสุดท้ายที่หลายคนมักมองข้าม เมื่อต้องการความสำเร็จในยุคดิจิตอล ก็ต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งในปัจจุบันมีระบบ มีโปรแกรมจำนวนมากให้เลือกใช้ ทั้ง ระบบรับออเดอร์ ระบบสต๊อกสินค้า  โดยระบบเหล่านั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการร้านได้เป็นอย่างดี ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีช่วยให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ถูกต้อง และแม่นยำช่วยบริหารจัดการทุกอย่างภายในร้านอย่างเป็นระบบช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และเก็บข้อมูลช่วยลดภาระงานของพนักงาน เช่น การนับสต๊อกสินค้าและวัตถุดิบช่วยลดปัญหาการทุจริตของพนักงานต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ถ้าจะมีจุดเด่นแค่อย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน อย่างที่บอกไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่าง รสชาติและคุณภาพ ราคา การสร้างความประทับใจ การโปรโมตผ่านคอนเทนต์ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในร้าน หากสามารถทำได้ครบทุกข้อก็จะทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น

ร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังมาแรงมากๆ มีหลายคนที่สนใจอยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร แต่ก็มีความกังวลอะไรหลายๆ อย่าง ไม่รู้จะขายอะไร ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี วันนี้เราจึงมีไอเดียเกี่ยวกับการเปิดร้านอาหารมาฝาก ไปดูกันว่าถ้าอยากเปิดร้านอาหารในยุคดิจิตอลแบบนี้ ต้องศึกษาเรื่องอะไรบ้าง?ศึกษาเกี่ยวกับภาพรวมของร้านก่อนสิ่งแรกที่ต้องศึกษาเมื่อคิดจะเปิดร้านนั่นก็คือภาพรวมของร้าน ภาพรวมในที่นี้ก็คือ ภาพในอนาคตคร่าวๆ ว่าอยากจะขายอะไร กลุ่มลูกค้าประมาณไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ เพื่อเป็นแนวทางในขั้นตอนต่อไป สำหรับคนที่มีเป้าหมายในใจชัดเจนอยู่แล้วว่าจะขายอะไร ขั้นตอนตรงนี้อาจจะมองว่าเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน น่าเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะจะติดปัญหาที่ว่า “ไม่รู้จะขายอะไรดี” ซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกเลยทีเดียว แนะนำให้เริ่มมองหาจากอะไรที่ใกล้ตัวก่อน เช่น อาหารที่ชอบทาน อาหารที่ทำแล้วอร่อย หรือสูตรอาหารของครอบครัว จากนั้นค่อยมาปรับปรุง เพิ่มเติมให้ถูกใจ ถูกปากกลุ่มลูกค้ามากขึ้นศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มลูกค้าเมื่อได้รู้แล้วว่าจะขายอะไร กลุ่มลูกค้าประมาณไหน เรื่องต่อมาที่ต้องศึกษาก็คือ พฤติกรรม ความชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นอย่างไร ในยุคดิจิตอล ยุคที่มีการแข่งขันสูงอย่างนี้ ข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ยิ่งเรามีข้อมูลลูกค้ามาก ข้อมูลเหล่านั้นจะช่วยให้เข้าใจความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เมื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้า ก็จะสามารถเปิดร้านอาหาร คิดเมนู ปรับเปลี่ยนรสชาติที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ นั่นเท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายได้อีกทางหนึ่ง เช่น เปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ก็จะต้องศึกษาว่า ส่วนใหญ่คนที่รักษาสุขภาพมีพฤติกรรมอย่างไร ทานอาหารรสชาติประมาณไหน เทรนรักสุขภาพในปัจจุบันเป็นอย่างไร มีวัตถุดิบเพื่อสุขภาพอะไรบ้างที่กำลังได้รับความนิยมศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการขายขั้นตอนต่อมาก็คือการศึกษาเกี่ยวกับรูปแบบการขาย เมื่อรู้แล้วว่าจะขายอะไร พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างไร ก็ต้องมาดูเรื่องของรูปแบบการขายกันต่อ ว่ารูปแบบการขายแบบไหนที่ตอบโจทย์กับร้านมากที่สุดเพราะในปัจจุบันร้านอาหารไม่จำเป็นจะต้องมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียว ยังสามารถเปิดขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งรูปแบบการขายแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เช่น ค่าเช่าที่, ค่า GP แอปพลิเคชัน และการเข้าถึงของลูกค้า เป็นต้น ทั้งนี้การจะเลือกรูปแบบการขายต้องดูจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ข้อดี-ข้อเสียของการขายแต่ละรูปแบบ ความพร้อมของพื้นที่ หรือเงินทุนที่มีอยู่ศึกษาเกี่ยวกับทำเลที่ตั้งสำหรับคนที่ตัดสินใจว่าจะเปิดร้านอาหารที่มีหน้าร้าน การเลือกทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องศึกษา เพราะทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คือเรื่องจริง คุณสมบัติของทำเลที่ดีในการเปิดร้านอาหารเป็นทำเลที่มีคนสัญจรพลุกพล่าน เป็นแหล่งชุมชน เช่น ใกล้ตึกสำนักงาน ใกล้มหาวิทยาลัย หรือเป็นย่านที่พักอาศัยเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก เดินทางง่ายมีรถประจำทางผ่าน และมีที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นทำเลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีกลุ่มเป้าหมายจำนวนเพียงพอต่อความสำเร็จที่ต้องการ เช่น การเปิดร้านอาหารมุสลิม ก็ควรเลือกทำเลที่อยู่ใกล้ชุมชนของชาวมุสลิม มีชาวมุสลิมอาศัยเป็นจำนวนมากเป็นทำเลที่มีคู่แข่งน้อย การมีคู่แข่งจำนวนมากก็จะทำให้โอกาสในการขายลดน้อยลง ถ้าได้เริ่มต้นเป็นร้านแรกๆ ก็จะมีความได้เปรียบอยู่พอสมควรเป็นทำเลที่มีข้อจำกัดตอบโจทย์ของร้าน เช่น เวลาในการเปิด-ปิดร้าน ระยะเวลาของสัญญาเช่า ราคาค่าเช่า ค่าส่วนกลาง หรือค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้นศึกษาเกี่ยวกับวัตถุดิบเมื่อคิดจะเปิดร้านอาหารก็ต้องศึกษาเรื่องของวัตถุดิบ ส่วนผสมที่ต้องใช้ เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้ พยายามเปรียบเทียบซัพพลายเออร์หลายๆ เจ้าเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุด เพราะนั่นคือกำไรที่ร้านจะได้รับ แต่ถ้าราคาถูกแลกกับวัตถุดิบคุณภาพไม่ดี ไม่สด ลูกค้าก็ไม่มีทางกลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน ต้องดูทั้งเรื่องคุณภาพและเรื่องต้นทุนควบคู่กันไป รวมถึงควรมองหาแหล่งวัตถุดิบสำรองเพื่อป้องกันการขาดแคลนวัตถุดิบด้วย ร้านอาหารถ้าขาดวัตถุดิบก็ไปต่อไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีส่วนสุดท้ายที่สำคัญสำหรับการเปิดร้านอาหารในยุคดิจิตอล ก็คือการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยในการจัดการกับระบบภายในร้าน เช่น การใช้โปรแกรม POC ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยจัดการกับหน้าร้านตลอดไปจนถึงหลังร้าน ทั้งการรับออเดอร์ การคิดเงิน รวมไปถึงการจัดการกับสต๊อกสินค้าด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำในการให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ให้เลือกใช้งาน เช่น การเก็บข้อมูลลูกค้า ข้อมูลการขาย ข้อมูลสินค้า ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และวางแผนการจัดซื้อวัตถุดิบภายในร้าน ต้องยอมรับว่าการทำร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย มีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ถ้าอยากทำธุรกิจร้านอาหารในยุคดิจิตอล ก็ต้องมองหาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย อย่ามัวเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ควรเสีย ทำทุกอย่างให้เป็นระบบก็จะช่วยให้การจัดการร้านอาหารที่แสนจะยุ่งยากง่ายยิ่งขึ้น 

การทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือร้านคาเฟ่ ในยุคปัจจุบันนิยมนำเทคโนโลยี หรือระบบต่างๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะโปรแกรม POS ขายหน้าร้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่สงสัยว่าโปรแกรม POS ขายหน้าร้านคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน โปรแกรม POS ขายหน้าร้านคืออะไร?โปรแกรม POS ย่อมาจาก Point of sale system เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับจัดการหน้าร้านผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยในการบริหารจัดการระบบต่างๆ ภายในร้านค้าให้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันโปรแกรม POS ไม่ใช่แค่เพียงโปรแกรมสำหรับคิดเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ให้เลือกใช้งานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกข้อมูลการขาย หรือการจัดการสต๊อกสินค้า โปรแกรม POS จึงเป็นตัวช่วยเพิ่มความแม่นยำในการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ทำให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดความผิดพลาดในการจัดการภายในร้านได้ด้วยองค์ประกอบของโปรแกรม POS มีอะไรบ้าง?องค์ประกอบของโปรแกรม POS จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนหลักๆ คือ1. ส่วนของ Software (โปรแกรม) : เป็นส่วนของโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ใช้สั่งงาน ที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบ POS โดยส่วนของ Software จะมีคุณสมบัติพื้นฐานในการใช้งานอยู่ด้วยกันหลายข้อ เช่นบันทึกข้อมูลของสินค้าที่ถูกนำเข้ามาขายบันทึกข้อมูลการขายและข้อมูลของผู้ซื้อบันทึกรายงานความเคลื่อนไหวของสินค้าทุกประเภทเช็กสต๊อกสินค้าที่มีการรับเข้าและขายออกการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Scanner Barcode, Printer Slip หรือ Customer Displayนอกจากนี้โปรแกรม POS ยังมีฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆ ให้เลือกใช้งานได้อีกมากมาย แต่ถ้าหากต้องการฟังก์ชันที่นอกเหนือจากพื้นฐาน ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเข้ามา2. ส่วนของ Hardware (อุปกรณ์) : เป็นส่วนของอุปกรณ์สำหรับใช้งานร่วมกับระบบ POS หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คืออุปกรณ์ที่ทำตามคำสั่งของ Software นั่นเอง โดยอุปกรณ์ที่ใช้งานจะมีอยู่หลายชนิด เช่นคอมพิวเตอร์ ใช้สำหรับประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับโปรแกรม POSหน้าจอแสดงผล ซึ่งในปัจจุบันจะนิยมใช้แบบ Touch Screen เช่น  iPad หรือ TabletPrinter Slip หรือเครื่องพิมพ์ใบเสร็จ ใช้สำหรับการพิมพ์ใบเสร็จรับเงินให้กับลูกค้าCash Drawer หรือลิ้นชักเก็บเงิน ใช้สำหรับเก็บเงินและทอนเงินให้ลูกค้า โดยส่วนใหญ่จะใช้งานคู่กับเครื่องพิมพ์ใบเสร็จScanner Barcode หรือเครื่องสแกนบาร์โค้ด ใช้สำหรับอ่านรหัสบาร์โค้ดของสินค้าเพื่อคิดเงิน หรือเก็บข้อมูลสต๊อกสินค้าระบบของโปรแกรม POS มีกี่ประเภท?โปรแกรม POS ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ แต่ถ้าหากแบ่งตามระบบการทำงาน จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ1. ระบบ POS แบบออนไลน์ (Online) : เป็นระบบที่สามารถใช้งานและเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านช่องทางออนไลน์ แม้จะอยู่ต่างสถานที่ ก็สามารถเข้าใช้งานร่วมกันได้ โดยข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Server ของผู้ให้บริการ มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย  ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่อง  สามารถใช้งานร่วมกับระบบ ERP ได้ เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภท และธุรกิจ หรือร้านค้าที่มีหลายสาขา2. ระบบ POS แบบออฟไลน์ (Offline) : เป็นระบบที่สามารถใช้งานและเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่อง มีความปลอดภัยด้านข้อมูล ต้องบริหารจัดการด้วยตนเอง และไม่สามารถใช้ร่วมกับระบบ ERP ได้  เหมาะสำหรับธุรกิจทั่วไป และธุรกิจ หรือร้านค้าที่มีสาขาเดียวโปรแกรม POS มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจร้านค้า1. ช่วยให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วโปรแกรม POS ขายหน้าร้าน จะช่วยให้สามารถรับออเดอร์ลูกค้าได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาจด และระบบยังคำนวณยอดเงิน เงินทอนได้อัตโนมัติ ทำให้สามารถคิดเงินทอนเงินให้ลูกค้าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ไม่ว่าลูกค้าจะเยอะแค่ไหนก็สบายหายห่วง อย่าลืมว่าความรวดเร็วและความถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ2. สามารถเช็กข้อมูลได้ตลอดเวลาโปรแกรม POS ไม่ว่าจะเป็นแบบออนไลน์ หรือออฟไลน์ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ยอดขายตอนนี้เท่าไหร่ ขายอะไรไปแล้วบ้าง เหลือสินค้าอีกกี่ชิ้น สามารถเข้าไปตรวจเช็กข้อมูลที่ต้องการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ หรือเสียเวลารวบรวมข้อมูลเอง ยิ่งร้านที่ต้องสต๊อกสินค้าจำนวนมากๆ ก็ไม่ต้องเสียเวลามานับสต๊อกเองด้วย3. ช่วยลดปัญหาการทุจริตร้านค้าที่ต้องมีพนักงานก็จะมีเรื่องการทุจริตให้ต้องระวัง การใช้โปรแกรม POS ขายหน้าร้านช่วยลดปัญหานี้ได้ เนื่องจากข้อมูลการขายจะถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติ มีอะไรขายไปเท่าไหร่ ต้องได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ก็จะช่วยลดปัญหาในส่วนนี้ไปได้ในระดับหนึ่ง4. ช่วยให้วางแผนการตลาดได้ง่ายขึ้นเพราะโปรแกรม POS ขายหน้าร้าน เก็บข้อมูลได้อย่างหลากหลายและชัดเจน ทำให้สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาด ทำโปรโมชันกระตุ้นยอดขายได้ง่ายขึ้น ต้องบอกเลยว่าโปรแกรม POS ขายหน้าร้าน ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีสำหรับร้านค้า ร้านอาหาร เพราะจะช่วยให้ทุกอย่างง่าย เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย ลดความเสี่ยงเรื่องการขาดทุน ที่สำคัญยังช่วยจัดการปัญหาหน้าร้านได้อีกนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะร้านเล็ก หรือร้านใหญ่ โปรแกรม POS ขายหน้าร้านก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุม ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ในการทำธุรกิจร้านค้า หรือร้านอาหาร การสต๊อกสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะทุกอย่างที่สต๊อกเท่ากับต้นทุน โดยเฉพาะสินค้าที่มีอายุจำกัด บอกเลยว่าถ้าจัดการสต๊อกแบบผิดๆ มีแต่เสียกับเสีย ซึ่งการดูแล สต๊อกสินค้าไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งถ้าเป็นร้านใหญ่ๆ ที่ต้องสต๊อกสินค้า หรือวัตถุดิบเป็นจำนวนมากก็จะยุ่งยากเข้าไปใหญ่ วันนี้เราจึงอยากแนะนำระบบสต๊อกสินค้า ที่จะช่วยให้การจัดการสต๊อกสินค้ากลายเป็นเรื่องง่าย ไปดูกันว่าระบบสต๊อกสินค้าดีอย่างไร แล้วเมื่อไหร่ถึงจำเป็นต้องใช้ระบบสต๊อกสินค้าระบบสต๊อกสินค้าคืออะไร?ระบบสต๊อกสินค้า เป็นระบบที่จะช่วยบริหารจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งประสิทธิภาพในที่นี้ก็คือสินค้ามีจำนวนที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ไม่ได้มีจำนวนมากจนเหลือทิ้งหมดอายุ หรือมีจำนวนน้อยจนไม่พอขาย ระบบสต๊อกสินค้าจะช่วยให้มองเห็นว่าสินค้าชิ้นไหนที่ขายดี ควรสต๊อกสินค้าเอาไว้ประมาณเท่าไหร่ รวมถึงยังเป็นการติดตามและดูผลประกอบการว่าสินค้าชิ้นไหนขายได้ สินค้าชิ้นไหนที่ควรทำโปรโมชันกระตุ้นการขายแต่การสต๊อกสินค้านอกจากดูเรื่องความนิยมแล้วยังต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น อายุการใช้งาน หรือการเก็บรักษา เพราะสินค้าบางอย่างขายดีจริง แต่ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด โดยเฉพาะกลุ่มของอาหารสด วัตถุดิบในการทำอาหาร ถ้าสต๊อกแล้วหมดอายุ เหลือทิ้ง เท่ากับต้องเสียต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ควรนำระบบสต๊อกสินค้าเข้ามาใช้งานระบบสต๊อกสินค้ามีข้อดีอะไรบ้าง?- สามารถตรวจสอบสต๊อกสินค้าได้ทันทีการใช้ระบบสต๊อกสินค้าจะช่วยให้สามารถตรวจสอบสต๊อกสินค้าได้ทันที ดูได้เลยว่าของชิ้นไหนเหลือจำนวนเท่าไหร่ ขายไปได้แล้วกี่ชิ้น โดยไม่ต้องมาเสียเวลานั่งนับ การนับสต๊อกแบบแมนนวลจะใช้เวลานาน โดยเฉพาะร้านที่มีสินค้าหลายชนิด หรือมีสินค้าเป็นจำนวนมาก- ช่วยให้สามารถวางแผนการสั่งซื้อได้อย่างเหมาะสมเมื่อรู้ว่าจำนวนคงเหลือ จำนวนที่ขายได้ของสินค้าแต่ละชิ้น ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนได้อย่างเหมาะสม ว่าในการสั่งซื้อสินค้าครั้งถัดไป ควรสั่งซื้อสินค้าชิ้นไหน จำนวนเท่าไหร่ ถึงจะเพียงพอต่อการขายและไม่เหลือทิ้งจนหมดอายุ- ช่วยลดปัญหาทุนจมการเปิดร้านค้า แน่นอนว่าต้องมีทั้งสินค้าที่ขายดี ได้รับความสนใจ และสินค้าที่ขายไม่ค่อยออก การใช้ระบบสต๊อกสินค้าช่วยให้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสินค้าชิ้นไหนขายดี สินค้าชิ้นไหนขายไม่ดี ควรสต๊อกสินค้าจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงยังช่วยทำให้ร้านค้าทราบว่าสินค้าตัวใด ทำกำไรให้ธุรกิจได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าสินค้าชิ้นไหนควรหยุดขาย ชิ้นไหนควรขายต่อ- ช่วยให้สามารถขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องนอกจากปัญหาสินค้าค้างสต๊อกขายไม่ออกแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่ร้านค้าหลายร้านพบเจอบ่อยๆ คือสินค้าไม่พอขาย ซึ่งจะทำให้พลาดโอกาสในการสร้างรายได้ไปเลย หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้หลายๆ ครั้ง ก็จะทำให้เสียโอกาสในการขายในระยะยาวได้ มาซื้อกี่ครั้งของก็หมดตลอด ครั้งหน้าลูกค้าก็ไม่อยากมาซื้อแล้ว- ช่วยในการวางแผนการตลาดระบบสต๊อกสินค้าจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทั้งหมด เช่น จำนวนคงเหลือ ยอดขาย ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ต่อยอดได้ ข้อมูลที่มีจะช่วยให้ทราบความต้องการของลูกค้า ทำให้สามารถวางแผนการตลาดได้อย่างตรงจุด ทำโปรโมชันอะไร ก็ถูกใจลูกค้า เป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายจำนวนมหาศาล- ลดปัญหาสินค้าตกหล่นการใช้ระบบสต๊อกสินค้า ถือเป็นการติดตามสินค้ารูปแบบหนึ่ง อย่างที่บอกว่าตัวระบบจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทั้งหมด รับเข้าวันไหน จำนวนเท่าไหร่ ขายออกได้กี่ชิ้น เวลาที่เกิดปัญหา สินค้าสูญหายก็จะสามารถตรวจสอบ ติดตามได้ง่าย ช่วยลดปัญหาสินค้าตกหล่นได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถช่วยลดปัญหาการทุจริตได้อีกด้วยดูจากข้อดีของระบบสต๊อกสินค้าแล้ว ก็น่าจะพอเป็นคำตอบให้หลายๆ ท่านได้ว่าควรนำระบบสต๊อกสินค้าเข้ามาใช้กับร้านค้าของท่านหรือไม่ ถึงแม้จะเป็นระบบที่มีค่าใช้จ่าย แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อไหร่ถึงจำเป็นต้องใช้ระบบสต๊อกสินค้า?ในการใช้งานระบบสต๊อกสินค้าอาจจะไม่ค่อยเห็นประโยชน์ชัดเจนสำหรับร้านค้าขนาดเล็กมากๆ ที่มีการขายสินค้าจำนวนน้อย สามารถนับสต๊อกได้ง่าย แต่ถ้าหากร้านมีการขยับขยาย มีสินค้าวางจำหน่ายหลากหลายขึ้น ต้องสต๊อกสินค้าจำนวนมากขึ้น จนเกิดผลกระทบ เช่น มีสินค้าคงค้างหมดอายุ มีสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า หรือต้องใช้เวลาในการนับสต๊อกนาน ก็ควรนำระบบสต๊อกสินค้าเข้ามาเป็นตัวช่วย แต่จริงๆ แล้ว หากอยากให้การจัดการสต๊อกสินค้าทำได้ง่าย และเป็นระบบ ก็สามารถนำระบบสต๊อกสินค้ามาใช้ได้ทั้งในร้านค้า ร้านอาหารทุกประเภททุกขนาด ระบบสต๊อกสินค้าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้สามารถจัดการกับสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะร้านที่ต้องสต๊อกสินค้าจำนวนมาก หรือต้องสต๊อกสินค้าหลายชนิด การสต๊อกสินค้าได้พอดีกับความต้องการของลูกค้า จะช่วยลดความสูญเสีย และเพิ่มผลกำไรได้ในเวลาเดียวกัน 

ในการทำธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ แน่นอนว่าผู้ประกอบการทุกท่านย่อมต้องคาดหวังกำไร คาดหวังให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ด้วยยุคแห่งเทคโนโลยี ยุคที่มีการแข่งขันสูง การที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักของตลาดย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นจะต้องหาเครื่องมือต่างๆ มาเป็นตัวช่วย วันนี้เราจึงจะพาไปดูกันว่าในยุคดิจิตอลอย่างนี้ จะมีเครื่องมืออะไรบ้าง ที่จะช่วยให้ธุรกิจร้านค้า ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จักในวงกว้างทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องมีเครื่องมือมาเป็นตัวช่วยธุรกิจในยุคดิจิตอล ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบบเครื่องมือต่างๆ ถือเป็นตัวช่วยที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยให้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบ และง่ายยิ่งขึ้น การทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ทันใจ อะไรที่ช้า อะไรที่ยุ่งยากวุ่นวายมีโอกาสไปไม่รอดสูงมาก เพราะนอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้สูงด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ธุรกิจยุคใหม่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ทำไมต้องมีเครื่องมือมาเป็นตัวช่วยในปัจจุบันเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจร้านค้ามีให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาอะไรมาใช้ก็ได้ เทคโนโลยีก็เหมือนอุปกรณ์อื่นๆ ทั่วไป ถ้าเลือกไม่ดีไม่เหมาะกับงานก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นต้องเลือกใช้เครื่องมืออย่างถูกต้องจึงจะเห็นผล เพราะถ้าเลือกเครื่องมือแบบผิดๆ ผลลัพธ์ที่ดีก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ดีไม่ดีอาจจะสร้างปัญหาตามมาด้วยซ้ำเครื่องมือสำหรับธุรกิจยุคดิจิตอล- เครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลในปัจจุบันข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ทุกส่วน ทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการตลาด การจัดการสต๊อกสินค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ล้วนต้องใช้ข้อมูลทั้งนั้น การเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และต่อยอดมีผลต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก มันจะช่วยให้มองเห็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เห็นฐานลูกค้า เห็นความต้องการของลูกค้า รู้ว่าควรทำการตลาดอย่างไรให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย หากมีข้อมูลอยู่ในมือแต่ไม่มีเครื่องมือที่จะช่วยในการวิเคราะห์ เท่ากับว่าข้อมูลที่มีอยู่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับธุรกิจเลย อย่าปล่อยให้ข้อมูลที่มีกลายเป็นแค่ขยะ สร้างประโยชน์จากข้อมูลในมือให้ได้มากที่สุด เท่านี้ก็เป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้มากขึ้นแล้ว- เครื่องมือจัดการระบบภายในธุรกิจที่มีหน้าร้าน มีการสต๊อกสินค้า สต๊อกวัตถุดิบ เครื่องมือจัดการระบบภายใน ถือเป็นตัวช่วยชั้นดีที่เลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นระบบ ง่ายต่อการบริหารจัดการ ง่ายต่อการตรวจสอบ ช่วยลดภาระง่ายและลดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียวระบบ ERP เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่อยากแนะนำ สำหรับการจัดการธุรกิจ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจโดยรวมให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ตั้งแต่การบริหารบุคคล การจัดซื้อ การผลิต การขาย รวมไปถึงการสต๊อกสินค้าทำให้การบริหารจัดการในส่วนต่างๆ ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดข้อดีของระบบ ERPรวบรวมการทำงานทุกส่วนเอาไว้ในระบบเดียว เป็นส่วนกลางของฐานข้อมูลช่วยบริหารทรัพยากรที่มีให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดช่วยลดความยุ่งยากในการทำงาน ป้องกันความผิดพลาด และการทำงานซ้ำซ้อนช่วยให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างชัดเจน สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้นช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรให้กับธุรกิจนอกจากนี้ ยังสามารถนำระบบ ERP ไปใช้ประโยชน์กับส่วนงานย่อยได้อีกหลายด้าน เช่น ด้านบัญชีและการเงิน ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ด้านการผลิต และด้านคลังสินค้า เป็นต้น- เครื่องมือสำหรับการสร้างโฆษณาการโฆษณายังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะทำให้กลุ่มลูกค้ารู้จักธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น สำหรับธุรกิจที่เปิดใหม่ ยังไม่มีฐานลูกค้า ไม่มีการโฆษณา ถึงจะขายได้บ้างแต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นอย่างแน่นอน ในการทำธุรกิจที่การแข่งขันสูง ยิ่งมีคนรู้จักมากเท่าไหร่ โอกาสในการสร้างรายได้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเครื่องมือสำหรับการสร้างโฆษณา จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ไม่ควรมองข้าม การทำโฆษณาให้ตรงจุดประสงค์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้าง- เครื่องมือสำหรับสร้างคอนเทนต์การโฆษณาว่าสำคัญแล้ว การสร้างคอนเทนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะทุกวันนี้การสร้างคอนเทนต์ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ใครที่ทำคอนเทนต์ดี คอนเทนต์น่าสนใจ ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ซึ่งคอนเทนต์ก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น บทความ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ แต่ก่อนที่จะทำคอนเทนต์ ก็ต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ เช่น ข้อมูลต่างๆ ของกลุ่มลูกค้า เพื่อให้คอนเทนต์ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ถ้าเลือกช่องทางผิด ทำคอนเทนต์ไม่ตรงใจลูกค้า ก็จะเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งการใช้เครื่องมือที่ดีจะช่วยให้การสร้างคอนเทนต์ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียวการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง เลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาเป็นตัวช่วย ก็จะทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าระบบต่างๆ อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุน แต่หากมองแล้วว่ามันสามารถช่วยลดความยุ่งยาก ช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณให้เข้าใกล้ความสำเร็จได้เร็วขึ้น ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก 

โปรแกรมหนึ่งที่มีความสำคัญกับทั้งธุรกิจร้านค้า รวมถึงร้านอาหาร คือ โปรแกรมขายหน้าร้าน หรือระบบ POS แล้วเจ้าโปรแกรม POS นี้ คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้างเชื่อว่านักธุรกิจแทบทุกคนจะรู้ว่าการแข่งขันในปัจจุบันสูงมาก หลายธุรกิจเติบโต หลายธุรกิจล้มเหลวด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้มีการปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกิจ โปรแกรมหนึ่งที่มีความสำคัญกับทั้งธุรกิจ SME ร้านค้า รวมถึงร้านอาหารไปจนถึงธุรกิจร้านค้าขนาดใหญ่ คือ โปรแกรมขายหน้าร้าน หรือระบบ POS ซึ่งอยู่ในระบบ ERP โปรแกรมหนึ่ง แล้วเจ้าโปรแกรม POS นี้ คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจของเราบ้าง?โปรแกรมขายหน้าร้าน POS คืออะไร?โปรแกรมขายหน้าร้าน หรือระบบ POS (Point of Sale) คือจุดชำระเงิน จุดขายหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อจัดการด้านการขาย โต้ตอบออเดอร์ของลูกค้า รวมถึงการเช็คสินค้าในสต๊อกสินค้า ซึ่งโปรแกรม POS จะใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์ เช่น เครื่องปริ้นเตอร์ใบเสร็จ ลิ้นชักเก็บเงิน และเครื่องสแกนบาร์โค้ด ที่เรามักเห็นพนักงานตามร้านอาหาร ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าใช้กันฟังก์ชันการทำงานของ โปรแกรมขายหน้าร้าน POSระบบ POS จะมีฟังก์ชันในการทำงานหลายอย่างที่มีประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจร้านค้าและร้านอาหาร ดังนี้1. เช็คสต๊อกสินค้าโปรแกรม POS จะช่วยอัพเดทสินค้าในสต๊อกสินค้าได้ และระบบ ERP ที่เป็น Cloud-Based จะรวมโปรแกรมขายหน้าร้านกับโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้าให้อยู่ในระบบเดียว สามารถเรียกใช้งานและอัพเดทสต๊อกสินค้าได้ตลอดเวลา และมีฟังก์ชันในการตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ2. การชำระเงินและออกใบเสร็จช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงิน เช่น การสแกนบาร์โค้ด การคำนวณยอด ประมวลผลการชำเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ การใช้ส่วนลดหรือคูปอง คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบเสร็จรับเงิน3. เก็บข้อมูลรายงานการขายโปรแกรม POS จะช่วยตรวจสอบยอดขาย คำนวณยอดขายในแต่ละวัน และสามารถเรียกดูยอดขายโดยรวมได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้คำนวณรายรับรายจ่าย บันทึกรายรับรายจ่ายประจำวัน รวมถึงยอดขายในแต่ละเดือน และยังสามารถดูยอดรวมจากระบบ POS บนหน้าจอได้ว่ามีความแตกต่างกับเงินในลิ้นชักหรือไม่4. เก็บขอมูลของลูกค้าเช่น ประวัติการซื้อ ช่องทางในการติดต่อ การเก็บแต้ม คูปองและส่วนลด รวมถึงใช้จัดเก็บความคิดเห็นของลูกค้า เพื่อสามารถใช้ปรับปรุงการบริการและสินค้าเพิ่มเติมได้ในอนาคต5 เหตุผลที่ร้านควรมีโปรแกรมขายหน้าร้าน POS1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถคิดเงิน ทำการชำระเงิน ให้ใบเสร็จกับลูกค้า เก็บยอดขายและข้อมูลของลูกค้าได้ไวขึ้น และเป็นระบบอัตโนมัติ ไม่ต้องทำด้วยตัวเองและลดข้อผิดพลาดได้ด้วยเช่นกัน2. จัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ ป้องกันสินค้าตกหล่น หรือสินค้าและวัตถุดิบล้นสต๊อก เพราะระบบ POS เป็นระบบแบบ Real-Time เชื่อมต่อกับโปรแกรมสินค้าคงคลัง และตัดสต๊อกสินค้าแบบอัตโนมัติ3. ได้รับข้อมูลที่ครอบคลุม เช่น ข้อมูลการขายเพื่อรายงานประสิทธิภาพการขาย ข้อมูลสต๊อกสินค้าเพื่อจัดการสต๊อกสินค้า เพื่อใช้คำนวณศักยภาพของธุรกิจ4. สามารถเช็คข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะประเภทโปรแกรม POS ที่เป็น Cloud-Based สามารถดูข้อมูลของโปรแกรมขายหน้าร้านได้ตลอดเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต5. เชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่นได้ เช่น โปรแกรมสต๊อกสินค้า โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้าและบริการ และโปรแกรมอื่น ๆ ในระบบ ERP ด้วยการใช้ประโยชน์จากโปรแกรมขายหน้าร้าน POS จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยจัดการสต๊อกสินค้า เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจและการขายของเราได้เป็นอย่างดีโปรแกรมขายหน้าร้าน ของ Treesoft.io มีฟีเจอร์อะไรบ้าง?ฟังก์ชันของโปรแกรมขายหน้าร้าน Treesoft.io สามารถรับออเดอร์ ชำระเงิน ออกใบเสร็จ และสามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ได้ ทั้ง เครื่องสแกนบาร์โค้ด เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ รวมถึงลิ้นชักเก็บเงิน และสามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ ทั้งแทปเล็ต โน๊ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์ฟีเจอร์โปรแกรม POS ของ Treesoft.ioสามารถนำเข้าสินค้าผ่าน Excel ได้มีฟีเจอร์สรุปยอดขายแต่ละวันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง เมื่อขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรองรับระบบโต๊ะอาหารสูงสุด 80 โต๊ะบันทึกระยะเวลาทานอาหาร (สำหรับบุฟเฟต์)สามารถแบ่งช่วงการขาย กะเช้า กะเย็นได้ออกใบเสร็จทั้งแบบกระดาษ และแบบดิจิทัล (Paperless)ตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ เชื่อมต่อโปรแกรมสต๊อกสินค้ามีฟังก์ชันคืนสินค้า และลบรายการที่บันทึกเพิ่มสินค้าได้ไม่จำกัดเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ทันที และสามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชัน CRM ได้มีระบบคูปองและส่วนลดคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มแบบอัตโนมัติสรุปโปรแกรมขายหน้าร้าน หรือโปรแกรม POS เป็นโปรแกรมหนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้าและร้านอาหารได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการขาย การจัดการสต๊อกสินค้า รวมถึงการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หากเป็นเจ้าของร้านค้าหรือร้านอาหาร และสนใจโปรแกรม POS ตัวช่วยขายหน้าร้าน Treesoft.io ออกแบบระบบ POS มาให้สามารถใช้งานได้ง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้นและไม่ซับซ้อน สามารถสมัครใช้งานได้ฟรี 14 วันแบบไม่จำกัดฟีเจอร์การใช้งาน

การคำนวณเงินเดือนด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องชวนปวดหัวสำหรับ HR แล้วจะมีเครื่องมีอะไรบ้างที่แก้ปัญหานี้? โปรแกรมเงินเดือน จะเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์ HRเงินเดือนพนักงาน ยิ่งพนักงานมีเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้เวลาในการคำนวณเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ พนักงานรายวัน รวมถึงพนักงานฟรีแลนซ์ก็เช่นกัน และการคำนวณเงินเดือนก็ไม่ใช่แค่ตัวเลขเงินเดือนเท่านั้น ยังมีเงื่อนไขในการคำนวณอื่น ๆ อีก เช่น ประกันสังคม โบนัส ภาษี คอมมิชชั่นหรือค่าโอทีด้วยเช่นกัน การคำนวณด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องชวนปวดหัวสำหรับ HR แล้วจะมีเครื่องมีอะไรบ้างที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการคำนวณเงินเดือน? โปรแกรมเงินเดือน จะเป็นโปรแกรมที่ตอบโจทย์ HR ได้เป็นอย่างดีโปรแกรมเงินเดือน Payroll คืออะไร?โปรแกรมเงินเดือนหรือโปรแกรม Payroll คือโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อคำนวณจัดการเงินเดือนของพนักงานแบบอัติโนมัติ ตั้งแต่การคำนวณค่าจ้าง เงินเดือน ประกันสังคม โบนัส คอมมิชชั่น ภาษีหัก ณ ที่จ่ายรวมถึงสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการคำนวณจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานโปรแกรมเงินเดือน ช่วยอะไร HR ได้บ้าง?เนื่องจากการคำนวณเงินเดือนของพนักงานเป็นหน้าที่หนึ่งที่มีความซับซ้อนมากของเจ้าหน้าที่ HR โดยเฉพาะบริษัทที่มีพนักงานเยอะ ทำให้ HR มักใช้เวลาไปกับการคำนวณเงินเดือนของพนักงานเป็นส่วนใหญ่และยังไม่รวมหน้าที่อื่นของ HR อื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้กระบวนการทำงานอื่น ๆ ล่าช้าลงไป ทำให้โปรแกรมคิดเงินเดือน Payroll เป็นตัวช่วยสำคัญของเจ้าหน้าที่ HRประโยชน์ของโปรแกรมเงินเดือน Payroll . อย่าง ที่บริษัทยุคใหม่ต้องมีโปรแกรมคิดเงินเดือนจะมีประโยชน์ต่อองค์กรทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ กลาง หรือธุรกิจ SME ก็ด้วยเช่นกัน ดังนี้1. ประหยัดเวลาทั้งขององค์กรและ HRหากบริษัทหรือธุรกิจของเราไม่มีโปรแกรมคิดเงินเดือน ก็อาจเห็น HR กำลังจ้องจอพร้อมกับเครื่องคิดเลขอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะตอนสิ้นเดือน การมีโปรแกรมเงินเดือนจะช่วยประหยัดเวลาในการทำ Payroll ไปได้เยอะ และทำให้ HR สามารถเอาเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนาองค์กรได้ด้วย2. เพื่อความแม่นยำในการจ่ายเงินเดือนพนักงานเรื่องเงินเป็นเรื่องซีเรียส ทั้งเงินของธุรกิจและเงินเดือนของพนักงาน การคำนวณเงินเดือนด้วยตัวเองก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ การมีระบบคำนวณเงินเดือนที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้สามารถคำนวณเงินเดือนได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ลดข้อผิดพลาดได้เป็นอย่างดี3. ลดต้นทุนการคำนวณเงินเดือนพนักงานหลายคน โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางไปจนถึงใหญ่ หากใช้วิธีการคำนวณด้วยตัวเอง ก็อาจทำให้ต้องมี HR หลายคน การใช้โปรแกรมคิดเงินเดือนก็อาจทำให้ไม่ต้องจ้าง HR หลายคนก็ได้ เพียงแค่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ซอฟต์แวร์ก็เพียงพอ4. เพื่อความโปร่งใสและความพึงพอใจของพนักงานการจ่ายเงินค่าจ้างหรือเงินเดือนที่ตรงเวลาและได้รับจำนวนที่ถูกต้องตามที่คุยกันไว้ ถือเป็นความน่าเชื่อถืออย่างหนึ่งที่ทำให้พนักงานไว้ใจในองค์กร สลิปเงินเดือนที่มีข้อมูลครบ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหลัก ค่าประกันสังคม ค่าขาดงาน หรือค่าต่าง ๆ ที่มีความละเอียด จะเป็นความโปร่งใสที่พนักงานต้องการ5. สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการเงินได้เช่น โปรแกรมบัญชี โปรแกรมการเงิน รวมถึงโปรแกรมทรัพยากรบุคคล ทำให้การทำงานไหลลื่น ลดความจำเป็นในการคีย์ข้อมูลที่ซ้ำซ้อนได้6. ใช้วิเคราะห์ข้อมูลของธุรกิจได้การตัดสินใจในทุกวันนี้จะใช้ข้อมูลตัวเลขเป็นหลัก ในทางธุรกิจแล้ว ตัวเลขจำนวนพนักงานและเงินเดือนพนักงาน ก็มีส่วนอย่างมากในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม-ลดเงินเดือน หรือการตัดสินใจอื่น ๆ ที่มีความละเอียดอ่อน7. มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกันบริษัทที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมไม่ได้เป็นแค่เทรนด์อย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่บริษัทยุคใหม่ต้องให้ความใส่ใจมากขึ้น ซึ่งการใช้โปรแกรมเงินเดือนจะช่วยลดการใช้กระดาษ และจัดเก็บข้อมูล ส่งสลิปเงินเดือนแบบ Paperless ซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อมสรุปโปรแกรมเงินเดือน เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรและเจ้าหน้าที่ HR ได้ประหยัดเวลาในการคิดเงินเดือนให้กับพนักงาน และเป็นโปรแกรม ERP อย่างหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับองค์กรได้จัดการ บริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโปรแกรมเงินเดือน Treesoft.ioหากเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะขนาดใหญ่ ขนาดกลางหรือเป็นธุรกิจ SME ที่ต้องคำนวณเงินเดือนให้กับพนักงาน Treesoft.io ออกแบบโปรแกรม Payroll มาให้สามารถคำนวณเงินเดือนได้อย่างละเอียด รองรับประกันสังคม โบนัส คอมมิชชั่นหรือโอที รวมถึงการคำนวณสวัสดิการต่าง ๆ ภายในบริษัท สามารถใช้ร่วมกับแอพพลิเคชันอื่น ๆ ของ Treesoft ได้อย่างง่าย สะดวก และสมัครใช้งานฟรี

อะไรจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ HR และบริษัท? โปรแกรม HR จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แล้วโปรแกรมที่ว่านี้สำคัญอย่างไร มีระบบอะไรบ้างที่ช่วยเพิ่มความสะดวกHR ในบริษัทต่าง ๆ มีหน้าที่หลายอย่าง ตั้งแต่การคำนวณเงินเดือน หาพนักงานที่เหมาะสมกับหน้าที่ เทรนนิ่งพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงการบันทึกข้อมูลทั่วไปของพนักงานและหน้าที่อื่น ๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งหน้าที่แต่ละอย่างจะต้องมีความละเอียดโดยเฉพาะเรื่องของข้อมูล ทำให้ระบบ HRM ที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น แล้วอะไรจะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ HR และบริษัท? โปรแกรม HR ที่มีประสิทธิภาพ จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด แล้วโปรแกรมที่ว่านี้ สำคัญอย่างไร มีระบบอะไรที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้บ้างโปรแกรม HR หรือระบบ HRM คืออะไร?โปรแกรม HR เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการอำนวยความสะดวกในงานด้านการจัดการทรัพยากรบุคคลหรือระบบ HRM ให้มีความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์การทำงานที่ดีของ HR เริ่มตั้งแต่ระบบการจ้างงาน โปรแกรมเงินเดือน Payroll ระบบแจ้งวันลา ระบบแสดงเวลาเข้า-ออกและชั่วโมงทำงาน รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลพนักงานด้วยเช่นกันระบบ HR ของโปรแกรม HR มีอะไรบ้าง?ในโปรแกรม HR จะมีระบบ HRM หลายระบบที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับ HR เช่น1. ระบบการจัดการข้อมูลของพนักงานเป็นฐานข้อมูลส่วนกลางในการจัดเก็บข้อมูลของพนักงาน ทั้งข้อมูลการเข้างาน ประวัติการทำงาน จำนวนเงินเดือน ตำแหน่งงาน และข้อมูลอื่น ๆ รวมถึงช่องทางในการติดต่อ ซึ่งข้อมูลแต่ละอย่างเป็นสิ่งสำคัญต่อองค์กรและระบบ HR นี้จะช่วยให้ HR ทำงานได้ไหลลื่นมากขึ้น2. ระบบเวลาเข้า-ออกงาน และชั่วโมงการทำงานเป็นระบบที่จะเข้ามาช่วย HR ในการประเมินพนักงานเกี่ยวกับระยะเวลาในการทำงานได้ รวมถึงสามารถนำไปคำนวณค่า OT เมื่อพนักงานทำงานล่วงเวลาได้เช่นกัน3. ระบบการลาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Leave)เป็นระบบที่สามารถแจ้งวันลาแบบออนไลน์ และการอนุมัติวันลาแบบออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชัน อำนวยความสะดวกให้กับทั้งเจ้าหน้าที่ HR และพนักงาน และไม่ใช้กระดาษ4. ระบบบันทึกวันลา วันหยุดโปรแกรม HR จะมีระบบที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการบันทึกวันลาและวันหยุด ทั้งวันลาหยุดของพนักงาน วันหยุดประจำปีไปจนถึงวันหยุดประจำบริษัท5. ระบบ Payrollโปรแกรม HR และโปรแกรม Payroll เป็น 2 โปรแกรมที่ช่วยประหยัดเวลาของ HR อย่างมาก เพราะทั้ง 2 โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรม ERP ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ และสามารถอัพเดทส่งข้อมูลถึงกันได้6 เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรม HRเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ HR ช่วยให้ HR สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ลดเวลาการทำงานของ HR สามารถใช้เวลาอื่นไปอบรมพนักงานได้เพื่อความถูกต้องของข้อมูล ลดข้อผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลพลาด ลดการคำนวณด้วยตัวเองช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะข้อมูลตัวเลข ข้อมูลประวัติส่วนต่าง ๆ ที่สามารถใช้วิเคราะห์ได้ช่วยให้สามารถติดตามเวลาการทำงานของพนักงานได้Paperless ไร้กระดาษ ข้อมูลอยู่ในระบบที่สามารถเข้าใช้งานและอัพเดทเมื่อไหร่ก็ได้โปรแกรม HR ของ Treesoft.io มีจุดเด่นอะไรบ้าง?โปรแกรม HR ของ Treesoft.io เป็นโปรแกรม 1 ใน 10 ของระบบโปรแกรม ERP ที่ถูกพัฒนามาให้มีความครอบคลุมการบริหารองค์กรธุรกิจแบบครบถ้วนทั้งธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงธุรกิจระดับ SMEซึ่งจุดเด่นของฟีเจอร์โปรแกรม HR ของ Treesoft.io จะมีดังนี้สามารถนำเข้ารายชื่อพนักงานได้ด้วยไฟล์ Excelเพิ่มรายชื่อพนักงานได้ไม่จำกัดระบุเงินเดือนหรือค่าจ้าง เพื่อไปคำนวณในโปรแกรม Payroll เพื่อสร้างสลิปอัตโนมัติเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูลของทั่วไปของพนักงานได้รองรับระบบ E-Leave หรือระบบการลาและอนุมัติการลาออนไลน์ได้ในแอพพลิเคชันระบุวันหยุดในแต่ละปีล่วงหน้าได้ สามารถเพิ่ม ลบ แก้ไขได้ดูวันลาของพนักงาน และวันหยุดของบริษัทได้รองรับระบบเวลาเข้า ออก และชั่วโมงการทำงานสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรม Payroll ได้ง่ายสรุป โปรแกรม HR เป็นโปรแกรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานได้เช่นเดียวกับโปรแกรม Payroll ซึ่งเป็นของคู่กัน หากบริษัทหรือธุรกิจไหนยังไม่มีระบบ HR ที่มีประสิทธิภาพ หรือยังไม่มีระบบ ERP Treesoft.io มีบริการถึง 10 โปรแกรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารองค์กร และสามารถสมัครใช้งานได้ฟรี

การจัดการสต๊อกสินค้าเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและยุ่งยาก อะไรจะมาช่วยให้การจัดสต๊อกสินค้าสะดวกขึ้น? โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ช่วยได้ไม่ว่าจะธุรกิจองค์กรใหญ่ ธุรกิจ SME หรือธุรกิจออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจที่จำเป็นต้องมีสต๊อกสินค้าและสินค้าคงคลัง จำเป็นต้องมีระบบการจัดการสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถดูภาพรวมของสต๊อกสินค้า การจัดเก็บสินค้า บันทึกสินค้าเข้า-ออก จำนวนสินค้าที่เหลือ ตำแหน่งของสินค้า การติดตามการส่งสินค้า และอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ไม่สามารถทำคนเดียวได้ แล้วอะไรจะมาช่วยให้การจัดสต๊อกสินค้าสะดวกขึ้น? เราขอพาไปรู้จักกับ โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า แล้วโปรแกรมที่ว่านี้คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า คืออะไร?โปรแกรมสต๊อกสินค้า (Inventory Management) เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้สามารถติดตาม จัดการ และจัดระเบียบสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวสูง เมื่อเทียบกับวิธีการจัดสินค้าคงคลังแบบกระดาษ หรือโปรแกรมที่ต้องมีการคีย์ข้อมูลนาน และโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า ก็เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม ERP หรือโปรแกรมกระบวนการจัดการธุรกิจทั้งหมดนั่นเองโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า ทำหน้าที่อะไรได้บ้าง?ติดตามสินค้าคงคลังควบคุมสต๊อกสินค้าจัดการคำสั่งซื้อเพิ่มประสิทธิภาพคลังสินค้ารายงานข้อมูลทางตัวเลขในสต๊อกสินค้าจัดการสินค้าในโรงงานหรือโกดังเสริมความปลอดภัยของข้อมูลโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า มีประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร?การใช้โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า ให้ประโยชน์มากมายกับธุรกิจทุกขนาด รวมถึงธุรกิจออนไลน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของโปรแกรมสต๊อกสินค้า จะมีดังนี้1. เพิ่มความแม่นยำในการจัดการสินค้าความแม่นยำของข้อมูลมาเป็นอันดับแรกเสมอ การจดบันทึกสินค้าคงคลังแบบเก่าอาจใช้ไม่ได้แล้วเพราะอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย การใช้โปรแกรมสต๊อกสินค้าจะช่วยลดปัญหานั้นได้ และยังช่วยให้เราตัดสินใจเติมสินค้าหรือลดสินค้าได้อย่างแม่นยำด้วยเช่นกัน2. ช่วยประหยัดต้นทุนได้เยอะเพราะการสต๊อกสินค้ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากเรามีการสต๊อกสินค้ามากเกินไปก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายสูงเท่านั้น การมีระบบสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดต้นทุนจากการเก็บสินค้าที่มากเกินไปได้ ทำให้สามารถใช้เงินไปกับเรื่องอื่นที่มีประโยชน์กว่าได้ ที่สำคัญ ช่วยลดขยะด้วย3. เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเวลาในการทำงานด้วยความที่เป็นโปรแกรมที่สะดวกในการคีย์ข้อมูล ทำให้เราหรือพนักงานสามารถทำงานได้เร็ว ประหยัดเวลาในการทำงานได้มากขึ้น4. เพื่อการบริการที่ดีขึ้นโปรแกรมสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เราสามารถดำเนินการจากคำสั่งซื้อของลูกค้าได้รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจและน่าเชื่อถือของธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์5. ช่วยคำนวนปริมาณสต๊อกสินค้าเชื่อว่าหลายคนไม่อยากให้มีสต๊อกสินค้าส่วนเกินกันหรอก เพราะนอกจากจะเสียพื้นที่ เสียต้นทุนไปโดยใช่เหตุแล้ว อาจทำให้คุณภาพของสินค้าเกิดความเสียหายด้วย การมีโปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้าจะช่วยจัดการปัญหาตรงนี้ได้เป็นอย่างดี และช่วยประหยัดงบประมาณได้เช่นกัน6. เพื่อการรายงานและปรับปรุงประสิทธิภาพสต๊อกสินค้าข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง แนวโน้มในการขาย และตัวเลขอื่น ๆ ที่ได้จากโปรแกรมสต๊อกสินค้า จะเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจของเราด้วยข้อมูล (Data-Driven) ทำให้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจได้เป็นอย่างดี7. รองรับการเติบโตของธุรกิจได้เป็นอย่างดีหากธุรกิจเริ่มมีการเติบโต จำเป็นต้องมีสต๊อกสินค้าที่ใหญ่ขึ้น การมีโปรแกรมจัดสต๊อกสินค้าที่มีประสิทธิภาพ จะรองรับการเติบโตได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นโปรแกรม ERP อย่างหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง8. เชื่อต่อได้ทุกทางเช่น Shopee, Lazada ที่สามารถบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้ในที่เดียวฟีเจอร์โปรแกรมสต๊อกสินค้าของ Treesoft.io มีอะไรบ้าง?โปรแกรมสินค้าคงคลังของ Treesoft.io มีจุดเด่นที่สามารถช่วยจัดการสต๊อกสินค้าทั้งธุรกิจ SME ไปจนถึงธุรกิจร้านขายของออนไลน์ เช่นมีวิธีใช้งานที่ง่าย สะดวก เพราะเป็น Cloud-Based ERP ที่สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์บริหารจัดการแบบล็อต/ซีเรียลวิเคราะห์สินค้าเข้า-ออก ประเมินมูลค่าสินค้าคงคลังออกแบบแผนผัง/พื้นที่ ในการเก็บสต๊อกสินค้าค้นหาสินค้าตาม SKUs ได้รวดเร็วลดความเสี่ยงของสินค้าเสียหายหรือหมดอายุเช็คประวัติสต๊อกสินค้าเข้า-ออกย้อนหลัง กรณีสินค้ามีปัญหาสามารถทำงานร่วมกับระบบ POS (ระบบขายหน้าร้าน) หรือระบบบัญชีได้สรุป โปรแกรมจัดการสต๊อกสินค้า เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ทุกธุรกิจที่มีสินค้าหรือต้องจัดเก็บสินค้าควรมี เพื่อความแม่นยำของสต๊อกสินค้า ความสะดวก ความรวดเร็ว เพื่อให้สามารถควบคุมสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์กรธุรกิจไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต้องมีระบบจัดการธุรกิจ เช่นระบบ ERP หรือ Enterprise Resource Planning แล้วระบบ ERP คืออะไร ทำไมธุรกิจ SME ต้องใช้การจัดการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจ SME ต่างก็มีรายละเอียดแยกย่อยที่ต้องจัดการ ยิ่งรายละเอียดเยอะ ก็ยิ่งทำให้เราปวดหัวไปตาม ๆ กัน และบางทีข้อมูลที่จำเป็นก็อาจตกหล่นและใช้เวลาในการจัดการนานจนส่งผลเสียต่อความไหลลื่นของธุรกิจ ทำให้องค์กรธุรกิจไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กต้องมีระบบจัดการธุรกิจที่มีประสิทธิภาพเช่นระบบโปรแกรม ERP หรือ Enterprise Resource Planning แล้วเจ้าระบบ ERP คืออะไร ทำไมธุรกิจ SME ต้องใช้โปรแกรม ERP คืออะไร?โปรแกรม Enterprise Resource Planning อธิบายง่ายให้ง่าย ERP คือระบบการจัดการกระบวนการธุรกิจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเงิน การขาย การจัดซื้อและการขาย บันทึกรายรับ-รายจ่าย บัญชี สต๊อกสินค้า ระบบเพย์โรล (เงินเดือนพนักงาน) ทรัพยากรบุคคล (HR) ระบบการจัดการข้อมูล และอื่น ๆ รวมไว้อยู่ในระบบเดียวประเภทของระบบ ERP ที่ได้รับความนิยม 2 ประเภท1. On-Premise ERPคือโปรแกรมจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่ถูกติดตั้งเข้าสู่อุปกรณ์และเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทโดยตรง จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ IT คอยทำหน้าที่ดูแลระบบอยู่เป็นประจำและต้องมีค่าบำรุงรักษาระบบ เลยทำให้มีราคาค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง2. Cloud-Based ERPคือโปรแกรมจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่ถูกติดตั้งบน Cloud Server ซึ่งไม่ต้องมีการติดตั้งโปรแกรมเข้าสู่อุปกรณ์ ไม่จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง และสามารถเข้าสู่ระบบ ERP ได้ทุกที่โดยใช้เพียงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น สามารถเข้าได้หลายอุปกรณ์ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงคอมพิวเตอร์ และเป็นประเภทที่ราคาค่าใช้จ่ายไม่สูงโปรแกรม ERP เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?ระบบ ERP คือระบบการจัดการธุรกิจที่เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจ ดังนี้On-Premise ERP จะเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธุรกิจที่มีการผลิตซับซ้อน บริษัททางด้านการเงิน โรงพยาบาล และธุรกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ เนื่องจากมีฐานข้อมูลค่อนข้างมากCloud-Based ERP จะเหมาะกับองค์กรขนาดกลางถึงเล็ก หรือเหมาะกับธุรกิจ SME มากกว่า ด้วยความที่ต้นทุนในการลงทุนค่อนข้างต่ำ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ ใช้ทรัพยากรบุคคลน้อย ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ IT คอยทำหน้าที่ประโยชน์ของ ERP มีอะไรบ้าง?การมีระบบ ERP คือความจำเป็นอย่างหนึ่งที่สำคัญมากในการดูแลระบบธุรกิจยุคใหม่ ซึ่งระบบ ERP นี้เองก็มีประโยชน์หลายอย่างสำหรับทุกประเภทและขนาดธุรกิจ เช่น1. ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานระบบ ERP คือความสะดวกอย่างหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นและช่วยให้ข้อมูลไม่ตกหล่น เช่น การป้อนข้อมูล การจ่ายเงินเดือนหรือเพย์โรล บันทึกการซื้อ-ขาย เพียงแค่การป้อนข้อมูลเข้าระบบก็ช่วยลดข้อผิดพลาด และให้พนักงานไปโฟกัสกับการทำงานอื่น ๆ ได้ดีขึ้น2. เพิ่มความแม่นยำของข้อมูลการคลาดเคลื่อนของข้อมูล จะส่งผลเสียต่อธุรกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่งและเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก ทำให้การใช้งานระบบ ERP คือระบบหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำของข้อมูลได้ เพราะระบบนี้จะทำให้การคีย์ข้อมูลเป็นเรื่องง่าย สะดวกอยู่ในระบบ ERP ระบบเดียว3. มีความยืดหยุ่นสูงระบบ ERP คือระบบหนึ่งที่เหมาะกับทุกธุรกิจ ทุกขนาด และเป็นระบบที่สามารถรองรับการจัดการธุรกิจเมื่อธุรกิจมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นหรือเมื่ออยากขยับสเกลการลงทุนของธุรกิจให้ใหญ่กว่าเดิม4. ประหยัดต้นทุนการใช้โปรแกรม ERP จะเป็นการลดต้นทุนด้านการดำเนินงานและกระบวนการต่าง ๆ ให้สั้นลงและใช้ทรัพยากรบุคคลน้อย รวมถึงเป็นการลดต้นทุนด้าน IT และค่าบำรุงรักษาระบบ โดยเฉพาะการใช้งานระบบ ERP แบบ Cloud-Based ERP5. สามารถสื่อสารข้อมูลและการทำงานร่วมกันได้ดีขึ้นข้อมูล โดยเฉพาะตัวเลขทางธุรกิจ เป็นข้อมูลที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับถัดมาคือการสื่อสารข้อมูลไปยังฝ่ายอื่น ๆ ให้ถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบ ERP คือระบบหนึ่งที่แค่มี access ก็สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ง่าย ๆ ทำให้การทำงานและการสื่อสารสะดวกสบายมากขึ้น6. เชื่อมทุกข้อมูลไว้ในระบบเดียวไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านการเงิน การขายและการซื้อ ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลด้านสินค้าหรือบริการ ข้อมูลด้านทรัพยากรบุคคล ข้อมูลด้านสินค้าคงคลัง และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ จะถูกรวมไว้ในระบบ ERP ระบบเดียว ทำให้ง่ายต่อการจัดการและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ไวกว่า7. ความปลอดภัยของข้อมูลข้อมูลทุกอย่างในธุรกิจ จำเป็นต้องมีความปลอดภัยเสมอ ซึ่งระบบ ERP เป็นระบบที่จะช่วยป้องกันการรั่วไหลได้เป็นอย่างดี ด้วยการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวดและมีมาตรฐานการป้องกัน  ต่างจากการเก็บข้อมูลผ่านไฟล์หรือไฟล์ออนไลน์ต่าง ๆจุดเด่นของโปรแกรม ERP ของ Treesoft.ioโปรแกรม ERP คือโปรแกรมหนึ่งที่เหมาะกับธุรกิจ SME โดยเฉพาะระบบ ERP แบบ Cloud-Based ซึ่งระบบ ERP ของ Treesoft.io ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ SME โดยมีมากกว่า 10 แอพพลิเคชันที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ เช่น ระบบขายหน้าร้าน ระบบการขาย จัดซื้อ รายจ่าย ระบบเพย์โรล บัญชี ระบบควบคุมสต๊อกสินค้า ระบบทรัพยากรบุคคล ระบบลูกค้า และระบบการจัดการสินค้าหรือบริการจุดเด่นของโปรแกรม ERP ของ Treesoft.ioเป็นระบบ Cloud-Based สามารถใช้โปรแกรมได้ง่าย ไม่ต้องติดตั้งลงเครื่องและสามารถใช้ได้ทุกเวลาPaperless จัดการเอกสารได้อย่างเป็นระเบียบ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพโดยไม่ใช้กระดาษสักแผ่นERP Software ที่มีฟังชันการทำงานที่จำเป็นต่อธุรกิจมากถึง 10 แอพพลิเคชัน ช่วยส่งเสริมการขาย ลดต้นทุน เพิ่มโอกาสและกำไรให้กับธุรกิจระบบการทำงานสะดวก ดูภาพรวมของแต่ละกระบวนการได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสรุปการทำธุรกิจ จำเป็นต้องอาศัยความรวดเร็วและความแม่นยำ ทั้งองค์กรขนาดใหญ่และธุรกิจ SME ทำให้โปรแกรม ERP คือโปรแกรมหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถจัดการกับกระบวนการต่าง ๆ ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ SME และยังไม่มีระบบ ERP คอยจัดการกระบวนการทางธุรกิจ Treesoft.io ออกแบบโปรแกรม ERP มาให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สมัครเข้าใช้งานง่าย สามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ ได้โดยไม่คิดค่าบริการ และสามารถทดลองใช้งานฟรีได้ 14 วันแบบไม่จำกัดฟีเจอร์การใช้งาน